สมฉายาศาสตราจารย์ : รวม 11 แข้งดังที่ปลุกปั้นโดยฝีมือรังนิค

รังนิค

หากไม่มีอะไรผิดคาด ราล์ฟ รังนิค จะกลายเป็นผู้จัดการทีมคนใหม่ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จนจบฤดูกาลนี้ พร้อมความหวังในการเสริมทัพแข้งความหวังใหม่ในตลาดนักเตะที่จะถึงนี้

ตลอดเวลา 8 ปีที่ผ่านมา นับตั้งแต่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน วางมือไป ‘ปีศาจแดง’ กลายเป็นทีมที่มีชื่อเสียงด้านลบเกี่ยวการเซ็นสัญญาแข้งใหม่  และมีไม่นักเตะมากที่ทำผลงานได้ยอดเยี่ยมสมกับราคาค่าตัวที่สโมสรจ่ายไป

ทว่าการมาของกุนซือชาวเยอรมัน อาจทำให้จุดนี้แตกต่างออกไป หลังเคยแสดงให้เห็นถึงสายตาอันเฉียบแหลงในการเสริมทัพ ทั้งในช่วงที่เวลาที่เขาทำหน้าที่กุนซือ หรือ ผู้อำนวยการด้านเทคนิคของทีม เร้ดบูลส์ ทั้งในออสเตรีย และเยอรมัน รวมไปถึงช่วงก่อนหน้านี้ทั้ง ชาลเก้ หรือ ฮอฟเฟ่นไฮม์ ด้วย

ด้วยเหตุนี้ UFA ARENA จะพาไปพบกับ 11 แข้งที่เจ้าของฉายา ‘เดอะ โปรเฟสเซอร์’ เคยดึงมาร่วมทีมและมีส่วนปลุกปั้นมากับมือ ทั้งในฐานกุนซือหรือผู้อำนวยการกีฬา

 

ผู้รักษาประตู | มานูเอล นอยเออร์

Neuer disappointed at awestruck Schalke | UEFA Champions League | UEFA.com

มานูเอล นอยเออร์ อยู่กับ ชาลเก้ แล้ว เมื่อช่วงที่ รังนิค ย้ายมาคุมทีมในปี 2004 แต่กว่าจะถูกดันขึ้นชุดใหญ่ในยุคของเขาก็ต้องรอถึงฤดูกาล 2005-06

แม้นายทวารทีมชาติเยอรมันจะไม่ได้ลงเล่นแม้แต่เกมเดียวในช่วงแรกของ ‘เดอะ โปรเฟสเซอร์’ แต่ต่อมาเขาก็เป็นนายด่านมือหนึ่งของทีม ‘ราชันสีน้ำเงิน’ ชุดที่ราล์ฟกลับมาคุมทีมอีกครั้งในปี 2011 ชุดที่คว้าแชมป์ เดเอฟเบ โพคาล และทะลุถึงรอบตัดเชือกในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ฤดูกาล 2010-11

และอย่างที่หลายคนทราบกันดีว่าในเวลาต่อมา นอยเออร์ ก็กลายเป็นหนึ่งในผู้รักษาประตูที่ดีที่สุดในโลก ณ ปัจจุบัน พร้อมมีบทบาทสำคัญในพัฒนาตำแหน่ง สวีปเปอร์-คีปเปอร์ ด้วย แต่ถ้าไม่ รังนิค ในวันนั้นก็อาจไม่ได้เห็น นอยเออร์ อย่างที่เป็นในวันนี้ก็เป็นได้

 

แบ็คขวา | โจชัว คิมมิช

Winning mentality, mind games and watching Xavi on YouTube" - RB Leipzig's  Diego Demme on Joshua Kimmich | Bundesliga

หนึ่งในการเซ็นสัญญาที่ยอดเยี่ยมของ รังนิค เมื่อคว้า โจชัว คิมมิช วัย 18 ปี จากสุต๊ตการ์ท มาร่วมทีม แอร์เบ ไลป์ซิก ด้วยค่าตัว 500,000 ยูโรในปี 2013

ด้วยผลงานที่โดดเด่นเกินตัวแม้อยู่ในลีกรองเมืองเบียร์ ทำให้ ‘ม้าขาว’ ใช้เงื่อนไขดึงตัวกลับมาในราคาเพียง 750,000 ยูโร และขายให้ บาเยิร์น มิวนิค ในปี 2015 ด้วยค่าตัว 7 ล้านยูโร

ต่อมาแข้งสารพัดประโยชน์ทีมชาติเยอรมัน ก็กลายเป็นตัวหลักในทัพ ‘เสือใต้’ พร้อมกวาดแชมป์มาครองมากมายทั้ง บุนเดสลีก้า 6 สมัย และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก อีกหนึ่งสมัย และรักษามาตรฐานการเล่นที่ยอดเยี่ยมได้เรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน

 

เซ็นเตอร์แบ็ค | อิบราฮิม่า โคนาเต้

Liverpool land Ibrahima Konaté from RB Leipzig - AS.com

กุยโด เชเฟอร์ นักข่าววงในของสโมสร แอร์เบ ไลป์ซิก เคยกล่าวกับ ลิเวอร์พูล เอ็คโค่ ในปีนี้ว่า “เจอร์เก้น คล็อปป์ ถาม ราล์ฟ รังนิค ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาว่า ‘ใครเป็นผู้เล่นที่ดีกว่ากันระหว่าง ดาโยต์ อูปาเมกาโน่ หรือ โคนาเต้?’ ”  

เจ้าของฉายา ‘เดอะ โปรเฟสเซอร์’ บอกกุนซือรุ่นน้องว่า ถ้าซื้อได้ทั้งคู่ก็ซื้อไปเลย ก่อนที่ คล็อปป์ จะเลือกคว้ากองหลังชาวฝรั่งเศสมาร่วมทีมในซัมเมอร์ที่ผ่านมา เพื่อเสริมแกร่งในแผงหลังให้ ลิเวอร์พูลในฤดูกาลนี้

 

เซ็นเตอร์แบ็ค | ดาโยต์ อูปาเมกาโน่

Dayot Upamecano transfer news: Bayern Munich announce signing of RB Leipzig  defender | Football News | Sky Sports

เส้นทางของ ดาโยต์ อูปาเมกาโน่ ในอาชีพค้าแข้ง ตั้งแต่ ซัลซ์บวร์ก จนไปถึง ไลป์ซิก ล้วนมี รังนิค เป็นผู้ปลุกปั้นและจับตาดูไม่ห่าง จนสามารถก้าวขึ้นไปเป็นกองหลังดาวรุ่งเบอร์ต้นๆของยุโรป ก่อนได้ย้ายไปร่วมทีม บาเยิร์น มิวนิค ในซัมเมอร์นี้

ด้วยเหตุนี้เชื่อว่า แฟนบอล แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่น้อยคงหวังกุนซือชาวเยอรมันจะช่วยหาตัวแทนที่เหมาะสมและมั่นคงในตำแหน่งกองหลังตัวกลางให้ทีมรักของพวกเขาต่อจากนี้

 

แบ็คซ้าย | ดาวิด อลาบา

David Alaba for Hoffenheim in the Bundesliga: 17 games 523 passes completed  44 interceptions 27 tackles won 19 take-o... | Squawka Football | Scoopnest

ถึงแม้ย้ายมาร่วมงานกับ รังนิค ในฐานแข้งยืมตัวเพียงเวลาไม่กี่เดือน แต่ก็ปฏิเสธไม่ว่าการย้ายมาเล่นให้กับ ฮอฟเฟ่นไฮม์ ในปี 2011 มีส่วนช่วยให้ ดาวิด อลาบา กลายเป็นยอดกองหลังในทุกวันนี้

ย้อนกลับไปช่วงที่เป็นดาวรุ่งกับ ‘เสือใต้’ แนวรับทีมชาติออสเตรีย เขายิงประตูแรกในบุนเดสลีก้าได้ในช่วงที่เล่นให้ ฮอฟเฟ่นไฮม์ พร้อมมีส่วนช่วยให้ทีมจบกลางตารางด้วย และหลังจากนั้นก็ค่อยพัฒนาจนกลายเป็น อลาบา อย่างที่เราเห็นในปัจจุบัน โดยตอนนี้เจ้าตัวกำลังค้าแข้งกับ เรอัล มาดริด ในฤดูกาลล่าสุด

 

กองกลาง | นาบี เกอิต้า

Liverpool beat Barcelona to Naby Keita, reveals RB Leipzig CEO | Football  News | Sky Sports

นาบี เกอิต้า สร้างชื่ออย่างมากสมัยที่เล่นให้กับ แอร์เบ ไลป์ซิก จนทำให้เขาได้รับความสนใจจากสโมสรดังทั่วยุโรป แต่ รังนิค ก็ไม่ต้องการปล่อยกองกลางคนสำคัญออกไปให้ ลิเวอร์พูล ในปี 2017

“เมื่อเร็ว ๆ นี้เราได้รับข้อเสนอ 75 ล้านยูโรสำหรับ นาบี เกอต้า ไม่มีทางหรอก เขายังมีสัญญาอยู่และเขาจะอยู่กับมันจนครบด้วย” เดอะ โปรเฟสเซอร์ กล่าว

สุดท้ายเขาก็ต้องจำใจปล่อย เกอิต้า ไปในปีต่อมา โดยย้ายไป แอนฟิลด์ ด้วยค่าตัว 52.75 ล้านปอนด์ และแม้ยังทำผลงานไม่ปังกับ ‘หงส์แดง’ เนื่องจากอาการบาดเจ็บ แต่คงมีเหตุผลที่ คล็อปป์ ได้ตัวกองกลางทีมชาติกินี มาร่วมทีม และรังนิคก็สมควรได้รับเครดิตในการเล็งเห็นถึงศักยภาพของเขาด้วย

 

กองกลาง | มาร์เซล ซาบิตเซอร์

Sabitzer tells RB Leipzig he doesn't want to renew his contract amid Bayern  Munich transfer links | Goal.com

หนึ่งในกองกลางเบอร์ต้นๆของ บุนเดสลีก้า อย่าง มาร์เซล ซาบิตเซอร์ ก็โดดเด่นขึ้นมาในยุคที่ รังนิค กุมบังเหียน หรือทำงานเบื้องหลังกับ แอร์เบ ไลป์ซิก เช่นกัน

กองกลางทีมชาติออสเตรีย ย้ายจาก ราปิด เวียนนา มาร่วมทีม ‘กระทิงแดง’ ในปี 2014 (ขณะนั้นยังอยู่ในลีก้า ทู) ก่อนปล่อยให้ทีมลูกในเครืออย่าง เร้ดบูลส์ ซัลซ์บวร์ก ยืมไปใช้งาน

หลังซัดไป 27 ประตูในฤดูกาล 2014-15 ไลป์ซิก ก็ดึงตัวกลับไปทันที และกลายเป็นตัวหลักของทีมตลอด 6 ฤดูกาลต่อมาในถิ่น เร้ดบูลส์ อารีน่า ก่อนที่แข้งวัย 27 ปี จะย้ายไปซบ บาเยิร์น มิวนิค ในฤดูกาลนี้ด้วยค่าตัว 16 ล้านยูโร

 

ปีกขวา | ติโม แวร์เนอร์

Chelsea reaches agreement with Leipzig to sign Timo Werner | Daily Sabah

ลืมเรื่องฟอร์มฝืดกับ เชลซี ไปก่อน เพราะ ติโม แวร์เนอร์ เคยเฉียบคมสุดๆสมัยค้าแข้งในบุนเดสลีก้า และ รังนิค ก็มีส่วนในการพัฒนาฝีเท้าของเขาด้วย

หอกทีมชาติเยอรมัน ย้ายจาก สตุ๊ตการ์ท มาร่วมทีม ไลป์ซิก ด้วยค่าตัว 10 ล้านยูโร ในปี 2016 โดยที่ กุนซือเมืองเบียร์ กล่าไว้ในตอนนั้นว่า “เขาเป็นผู้เล่นที่มีความทะเยอทะยาน มองหาการพัฒนาอยู่เสมอ และสามารถเล่นงานคู่แข่งด้วยความเร็วของเขาได้”

แวร์เนอร์ ตอบแทนความเชื่อใจด้วยการกดไป 95 ตุงจาก 159 นัดกับ ไลป์ซิก ก่อนย้ายไป ‘สิงห์บลูส์’ ด้วยค่าตัว 50 ล้านยูโร ในปี 2020 และคงต้องเอาใจช่วยว่าเขาจะกลับมาเป็นดาวยิงคนเดิมเหมือนสมัยเล่นให้ ไลป์ซิก ได้อีกหรือไม่ในฤดูกาลนี้

 

กองกลางตัวรุก | โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่

Firmino in focus: who is Liverpool's new Brazilian? | UEFA Europa League |  UEFA.com

ถึง รังนิค เลือกลาออกจากตำแหน่งผู้จัดการทีม ฮอฟเฟ่นไฮม์ ในปี 2011 เพียงหนึ่งวันหลังคว้า โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ มาร่วมทีม เนื่องจากสโมสรปล่อย หลุยส์ กุสตาโว่ ให้บาเยิร์น มิวนิค แต่เขาก็คือคนแรกที่ทำให้ บ็อบบี้ มีโอกาสย้ายมาเล่นฟุตบอลในยุโรปครั้งแรก

หลัง 4 ฤดูกาลครึ่ง ตัวรุกทีมชาติบราซิล ซัดไป 47 ประตูจาก 151 นัดให้ ฮอฟเฟ่นไฮม์ ก่อนที่ ลิเวอร์พูล จะดึงตัวไปร่วมทีมในปี 2015 ด้วยค่าตัว 29 ล้านปอนด์ และกลายเป็นแข้งคนสำคัญที่มีส่วนช่วยให้ ‘หงส์แดง’ คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกและแชมเปี้ยนส์ลีกในเวลาต่อมา

 

ปีกซ้าย | ซาดิโอ มาเน่

FC Red Bull Salzburg on Twitter: "#reunion 😍 #UCLDraw #Mane #Keita  https://t.co/G6k0fptYVE" / Twitter

ย้อนกลับไปเมื่อ 7 ปีก่อน ซัลซ์บวร์ก ที่มี รังนิค เป็นผู้อำนวยการกีฬาเป็นคนดึง ซาดิโอ มาเน่ ดาวเตะวัย 20 ปี จาก เมตซ์ มาร่วมทีมด้วยค่าตัวแสนถูกเพียง 3.6 ล้านปอนด์

ด้วยฟอร์มที่ร้อนแรงเกินใครใน ออสเตรีย ทำให้ ดาวเตะทีมชาติเซเนกัล ย้ายมาเล่นในพรีเมียร์ลีกครั้งแรกกับ เซาแธมป์ตัน ก่อนกลายเป็นตัวรุกเบอร์ต้นๆในยุโรป หลังย้ายซบ ลิเวอร์พูล 

“คล็อปป์ ไม่ต้องขอบคุณผมหรอก มันไม่ใช่บังเอิญแน่ๆที่เขามีนักเตะเก่าของผมถึง 4 คนในทีม (ฟีร์มิโน่, เกอิต้า, มาเน่ และ โจแอล มาติป) เพราะมันแสดงให้เห็นอยู่แล้วว่าเขากำลังมองหาผู้เล่นแบบเดียวกันกับที่เราทำ” รังนิค กล่าวไว้ในปี 2019

 

กองหน้า | เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์

Salzburg star Haaland makes more Champions League history | Goal.com

ถึงโดดเด่นแค่ไหนใน นอร์เวย์ แต่ช่วงที่ เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ ลาทีมบ้านเกิดอย่าง โมลด์ ไปร่วมทีม ซัลซ์บวร์ก ด้วยค่าตัว 7.2 ล้านปอนด์ในปี 2019 ก็ยังไม่ได้รับความสนใจจากแฟนบอลเท่าไหร่นัก

ทว่าในฤดูกาล 2019-20 ชื่อของ ฮาแลนด์ ก็ดังเป็นพลุแตกหลังแจ้งเกิดเต็มตัวในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยส์ลีก ด้วยการซัดไปถึง 8 ประตูจาก 6 นัด ไม่แปลกที่จะทำให้เขาได้รับความสนใจจากสโมสรดังทั่วยุโรป

แม้ปัจจุบันยังเล่นให้ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ตั้งแต่เดือนมกราคมปี 2021 แต่ดีกรีความเนื้อหอมของ ดาวยิงวัย 21 ปี ก็ไม่มีท่าทีว่าจะตกลงแต่อย่างใด และอาจหนักขึ้นกว่าเดิมหลังจบฤดูกาลนี้ด้วย

รังนิค

บทความที่เกี่ยวข้อง

โซลชา
3 ปีที่ว่างเปล่า : โซลชากับความล้มเหลวในฐานะกุนซือปีศาจแดง