จาก 4 เหลือ 2 ปี : วิเคราะห์ข้อดี-เสียของฟุตบอลโลกแบบใหม่

ฟุตบอลโลก

เดิมทีฟุตบอลโลกมีกำหนดการแข่งขันในทุกๆ 4 ปี แต่ในอนาคตก็มีแนวโน้มเปลี่ยนแปลงไปจากนี้ไม่น้อย จากแนวคิดของชายที่ชื่อ อาร์เซน เวนเกอร์

อดีตผูจัดการทีมระดับตำนานของ อาร์เซน่อล ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายพัฒนาฟุตบอลของ สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ เป็นผู้ริเริ่มแนวคิดจัดบอลโลกในทุกๆ 2 ปี ซึ่งได้มีการหารือเกี่ยวกับเรื่องนี้ผ่านการประชุมกับเหล่าผู้บริหารเบื้องบนเรียบร้อย

อย่างไรก็ตาม แนวคิดที่ เวนเกอร์ และ ฟีฟ่า เสนอ ถูกหลายคนในวงการลูกหนังมองว่าไม่ใช่แนวคิดที่ดีเท่าไหร่นัก พร้อมออกโรงวิจารณ์และต่อต้านกันไปต่างๆนาๆ เกี่ยวกับแผนบอลโลกแบบใหม่

ทว่าแนวคิดดังกล่าวมีแต่เรื่องแย่ๆไปทั้งหมดจริงๆหรือ? ด้วยเหตุนี้ UFA ARENA จึงขอพาไปวิเคราะห์ถึงข้อดี และข้อเสีย หากมีการปรับรูปแบบบอลโลกใหม่ให้แข่งขันทุกๆ 4 ปี

 

ข้อดี | ทัวร์นาเม้นต์ระดับโลกที่มีให้ชมบ่อยขึ้น

แฟนบอลคนไหนบ้างจะไม่รักฟุตบอลโลก และ 4 ปีก็ถือว่าเป็นเวลาที่ยาวนานไม่น้อยกับการชมทัวร์นาเม้นต์สำคัญ และเมื่อพิจารณาจาก แชมเปี้ยนส์ ลีก กับ พรีเมียร์ลีก ที่เตะกันในทุกๆปี บอลโ,กไม่ได้มีชื่อเสียงหรือความยิ่งใหญ่น้อยกว่าเลย จริงๆก็ถูกยกให้เป็นทัวร์นาเม้นต์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในวงการลูกหนังด้วยซ้ำ

เมื่อเริ่มแรกของการแข่งบอลโลก ก็มีเพียงไม่กี่ทีมที่ต้องการเข้าร่วม รวมถึงผู้ชมก็มีไม่มาก ทว่าในปัจจุบัน มีผู้คนหลายพันล้านคนต้องการชมการแข่งขัน ทั้งผ่านทางหน้าจอ หรือชมในสนามแข่งจริงๆ และการเฝ้ารอทุกๆ 4 ปีอาจเป็นไอเดียที่โบราณเกินไปสำหรับแฟนบอลบางคนแล้ว

 

ข้อเสีย | ความศักดิ์สิทธ์ที่อาจถูกลดทอน

FIFA World Cup 2022 schedule and live timings favour Indian fans

อันที่จริง การจัดตารางทัวร์นาเมนต์แบบเก่านั้นเป็นข้อดีสำหรับหลายๆ คน ทุกๆ 4 ปีอาจดูเหมือนเป็นความคิดโบราณ แต่มันเป็นอย่างที่มันเป็นมาโดยตลอด และสถานะในตำนานดังกล่าวควรได้รับการอนุรักษ์ไว้

บอลโลกมีความพิเศษ เพราะไม่ใช่การแข่งขันที่มีให้เห็นบ่อยๆ และการคว้าแชมป์ได้แต่ละครั้งก็ไม่ใช่เรื่องง่าย แถมเต็มไปด้วยเรื่องราวให้พูดถึงมากมาย

มีเพียงนักเตะคนเดียวที่คว้าแชมป์โลกได้ 3 สมัย นั่นก็คือ เปเล่ ตำนานแข้งอีกคนที่ถูกยกย่องว่าดีที่สุดตลอดกาล ดังนั้นบอลโลกจึงไม่ใช่ทัวร์นาเม้นต์ที่คว้าเหรียญรางวัลอย่างเดียว บางครั้งมันก็ควรเป็นสิ่งที่คุณเห็นได้ไม่บ่อยในชีวิต และมีบอลโลกไม่กี่ครั้งที่เต็มไปด้วยเรื่องราวที่น่าจดจำหรือความแปลกพิศดารไม่เหมือนใคร

 

ข้อดี | ประเทศเล็กๆได้เข้าร่วมหรือการเป็นเจ้าภาพของประเทศอื่นๆ

48 ทีมในฟุตบอลโลกดูเป็นการจัดการแข่งขันที่เกินเบอร์ไปสักหน่อย แต่แผนนี้ก็ถูกวางไว้ใช้ในปี 2026 หากเรามีการแข่งขันเหล่านี้บ่อยขึ้น บางทีอาจจะมีความจำเป็นน้อยลงในการพยายามในหลายประเทศเข้าร่วมแข่งให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ทุกๆ 4 ปี

และนั่นเป็นเพียงประเทศที่เข้าร่วมการแข่งขันเท่านั้น ซึ่งถ้าหากลองมองไปประเทศที่ต้องการเป็นเจ้าภาพก็มีไม่น้อยเช่นกัน อย่าง อังกฤษ ที่ห่างหายการเป็นเจ้าภาพรายการนี้มานานกว่า 55 ปีแล้ว

ดังนั้น ทุกคนควรได้เห็นการแข่งขันระดับโลกอย่างน้อยสักหนึ่งครั้งในชีวิตไม่ใช่หรือ?

 

ข้อเสีย | ส่วนร่วมในบอลโลกและเจ้าภาพที่ควรจะเป็น

Virtual workshop to be held for all United States bid cities for 2026 World Cup

การลดเวลาการแข่งขันฟุตบอลโลกลงไม่ได้ลดภาระของประเทศที่เป็นเจ้าภาพเท่านั้น ประเทศที่เสนอราคาสูงมากในการเป็นเจ้าภาพอย่าง โมร็อกโก ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ก็ยังลำบากไม่น้อยในการแข่งขันกับประเทศอื่นๆทั้ง สหรัฐอเมริกา หรือประเทศอื่นๆในยุโรป ต่อให้มีจัดการแข่งขันถี่ขึ้นก็ตาม

บอลโลกทุกสองปีไม่ได้แก้ไขความไม่เท่าเทียมกันในโลก มันไม่ได้ให้โอกาสประเทศเล็กๆ ในการเข้าร่วมทัวร์นาเมนต์มากขึ้น มันแค่ทำให้ประเทศที่ใหญ่กว่ามีโอกาสมากขึ้นในการคว้าแชมป์ต่างหาก

หาก ฟีฟ่า  ต้องการให้โอกาสชาติต่างๆ ได้เล่นบอลโลกมากขึ้น, การกระจายความมั่งคั่งและโควต้าผ่านเข้ารอบสุดท้ายอีกเล็กน้อย ก็อาจมีมีทางอื่นที่ดีกว่า เพราะในท้ายที่สุด ประเทศที่ใหญ่กว่าจะยังคงผูกขาดการแข่งขันต่อไปเช่นเดิม

 

ข้อดี | โฟกัสบอลทีมชาติมากขึ้น

เมื่อก่อนการเล่นในบอลโลกจะเป็นจุดสูงสุดของอาชีพนักเตะ ตอนนี้ มีการโต้เถียงกันเกี่ยวกับว่าทัวร์นาเมนต์นั้นมีชื่อเสียงเทียบเท่าแชมเปียนส์ลีกหรือไม่

การมีการแข่งขันระดับนานาชาติทุกปีทำให้ปฏิทินฟุตบอลพร้อมสำหรับการเล่นให้กับทีมชาติของคุณอยู่เสมอ อีกทั้งเป็นการแข่งขันที่เงินซื้อไม่ได้ และเป็นทัวณ์นาเม้นต์ที่คนทั่วไปมีแนวโน้มจะรับชมไปทั่วโลกมากกว่าค่าเฉลี่ยของ แชมเปี้ยนส์ลีก

ด้วยโลกที่ใหญ่กว่าที่เคยเป็นมา บอลโลกจึงเป็นทัวร์นาเมนต์ที่มีความเป็นประชาธิปไตยมากที่สุด ไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าใครซื้อผู้เล่นที่ดีที่สุดหรือใครมาจากไหน ทุกคนสามารถเข้าร่วมและคว้าชัยได้ทุกที่ นั่นเป็นสิ่งที่ดีที่จะมีบนปฏิทินฟุตบอลในทุกๆ 2 ปี 

 

ข้อเสีย | นี่ไม่ใช่สิ่งที่บอลทีมชาติเป็น

Why African teams fell short at the World Cup - again

มีเหตุผลที่ฟุตบอลระดับทีมชาติสูญเสียความนิยมไปบ้างเช่นกัน นั่นก็คือเพราะการแข่งขันไม่ได้สนุกหรือดีอย่างที่มันควรจะเป็น

ยูโร 2020 นั้นยอดเยี่ยมมาก แต่มันเป็นฟุตบอลที่มีคุณภาพด้อยกว่า ทั้งแท็คติกและทางเทคนิคกว่าที่หลายคนได้รับชมในเกมลีกหรือบอลยุโรปทุกๆสัปดาห์ สโมสรที่ได้มีเงินถุงเงินถังอาจเป็นต่อในการแข่งขัน แต่นั่นเป็นเพราะพวกเขาทุ่มเงินลงไป และท้ายที่สุด พวกเขาจะได้สิ่งที่จ่ายไปกลับคืนมา

เหตุใดจึงควรมีการเรียกร้องให้มีฟุตบอลเพิ่มขึ้น ในเมื่อทีมดังๆเองก็ยังไม่มีแฟนบอลเข้าชมเต็มสนาในทุกๆสัปดาห์? นี่ไม่ได้หมายถึง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เพียงทีมเดียว แต่ฟุตบอลระดับชาติมีคุณภาพระดับสูงมากพอให้จัดบ่อยขึ้นจริงๆหรือไม่?

ฟุตบอลทีมชาติก็ยังยอดเยี่ยมอยู่ แต่ก็ไม่สามารถแข่งขันกับฟุตบอลระดับสโมสรที่มีความต่อเนื่องมากกว่า และการจัดบอลโลกให้ถี่ขึ้น ก็มีแนวโน้มว่าไม่อาจเปลี่ยนแปลงเรื่องนั้นได้ เพราะสโมสรต่างๆ ได้สร้างกีฬาให้กลายเป็นสิ่งที่เป็นในปัจจุบัน รวมถึงควบคุมปฏิทินฟุตบอลในแต่ละปีด้วย

 

ข้อดี | ลดทัวร์นาเม้นต์พรีซีซั่นและเกมที่ไม่สำคัญน้อยลง

Lingard comeback as Manchester United beat Derby 2-1 in pre-season friendly - Newsdir3

เหล่ากุนซือในปัจจุบัน คงจะอ้างว่าผู้เล่นของพวกเขาเล่นมากเกินไปเหมือนเดิม ในขณะที่สโมสรที่จัดเกมอุ่นเครื่องเพื่อขยายการตลาดไปทั่วโลก และนี่เป็นสิ่งที่ อาร์เซน เวนเกอร์ พูดมาตลอดเกี่ยวกับการลดเกมที่ไม่สำคัญลง และบอลโลกที่บ่อยขึ้นก็จะเพิ่มเกมที่สำคัญมากขึ้น

หากคุณกำลังวางแผนที่จะบินไปอเมริกาเหนือเพื่อเล่นกระชับมิตร ทำไมไม่จัดทัวร์นาเมนต์ที่คนทั้งโลกอยากดูล่ะ? เมื่อพูดแบบนี้ ดูเหมือนจะไม่ต้องหาข้อแก้ตัวมาอ้างให้เหนื่อยเลย

และอย่างไรก็ตาม หากผู้เล่นมีความเหนื่อยล้าพอสมควร ก็สามารถให้โอกาสแก่นักเตะเยาวชนให้ลงเล่นมากขึ้นได้เช่นกัน

 

ข้อเสีย | ชีวิตที่มีฟุตบอลมากเกินไป

Footballers on holiday, from Alli, Maddison, Grealish and Sancho in Ibiza to Ronaldo in Portofino and Rooney in Barbados

มีความแตกต่างอย่างมากระหว่างทัวร์นาเมนต์อุ่นเครื่องกับการแข่งขันบอลโลก แน่นอนว่าเกม อิตาลี พบ อังกฤษในรอบชิงชนะเลิศของยูโร จะดึงดูผู้คนมากกว่า เกมที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พบ แอลเอ แกแล็กซี่ แน่นอน และไม่ได้เกี่ยวกับด้านกายภาพเท่านั้น

บรรยากาศการแข่งขันและอารมณ์ที่ขึ้นๆลงๆ ในฟุตบอลทัวร์นาเม้นต์ระดับเมเจอร์ อาจทำให้จิตใจเหนื่อยล้า ส่งผลให้ผู้เล่นต้องการวันหยุดพักผ่อน พวกเขาต้องการหยุดคิดถึงเรื่องฟุตบอลสักช่วงเวลาหนึ่ง แม้เป็นเวลาแค่ 4-5 สัปดาห์ก็ตาม 

พวกเขาต้องการโอกาสที่จะผ่อนคลายอย่างเต็มที่และหลีกเลี่ยงความเหนื่อยหน่ายทางจิตใจและร่างกายของพวกเขา และสโมสรที่เป็นคนจ่ายค่าเหนื่อยให้พวกเขาคงไม่ปลื้มเท่าไหร่ หากต้องให้นักเตะของพวกเขา ต้องพักยาวอีกเป็นเดือนจากการเล่นในทัวร์นาเม้นต์ทีมชาติที่บ่อยขึ้นกว่าเดิม

เวลาที่ว่างและพักผ่อนจึงเป็นสิ่งที่จำเป็น ไม่ใช่แค่นักเตะ และสำหรับพวกเขาเราแฟนบอลทุกคนด้วย และการได้เห็นฟุตบอลกลับมาแข่งขันแบบมีคนดูในสนามอีกครั้งหลังโควิดแพร่ระบาด ทั้งฟุตบอลลีก หรือศึกยูโรที่ผ่านมา จึงเป็นเรื่องที่น่ายินดีไม่น้อยเช่นกัน

คุณอาจไม่เห็นคุณค่าของบางสิ่ง ถ้าคุณมีหรือพบเจอมันตลอดเวลา และนั่นคือความงดงามของการแข่งขันฟุตบอลโลกทุกๆ 4 ปี

 

บทความที่เกี่ยวข้อง

แคช
แมตตี้ แคช : วัยรุ่นร้านขายของเล่นสู่แข้งทีมชาติโปแลนด์