ไปไหนดี? : วิเคราะห์เบลลิ่งแฮมกับสถานีต่อไปในซีซั่นหน้า

หนึ่งในดาวรุ่งที่เนื้อหอมที่สุดในฤดูกาลนี้ คงต้องมีชื่อของ จู๊ด เบลลิ่งแฮม มิดฟิลด์ดาวเด่นของ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ อยู่ด้วยอย่างแน่นอน

จริงๆชื่อของ กองกลางวัย 19 ปี ได้รับการพูดถึงและจับตามอง มาร่วมปีกว่าๆแล้ว หลังแจ้งเกิดอย่างเต็มตัวกับ ‘เสือเหลือง’ ใน 2 ฤดูกาลก่อน โดยปัจจุบันเขาเป็นตัวหลักของทีมที่กำลังลุ้นแชมป์บุนเดสลีก้า เยอรมนี อยู่ในตอนนี้

ด้วยฟอร์มการเล่นและอายุอานามที่ไม่มาก สามารถพัฒนาไปได้อีกไกล ทำให้เขาได้รับความสนใจจากสโมสรดังทั่วยุโรป และได้รับการวิเคราะห์ไปต่างๆ นาๆ ถึงจุดหมายต่อไปของเจ้าจู๊ดจะเป็นสโมสรไหน

ด้วยเหตุนี้ UFA ARENA จึงพาไปวิเคราะห์ทีมต่างๆ ที่อาจสถานีต่อไปของ กองกลางตัวเก่งของ ดอร์ทมุนด์ ในฤดูกาลหน้า และมีโอกาสเกิดขึ้นมากน้อยแค่ไหนผ่านบทความนี้

 

แมนเชสเตอร์ ซิตี้

แม้มีกองกลางให้เลือกใช้อยู่ล้นทีม แต่ไม่ใช่เรื่องแปลกเช่นกัน เมื่อ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ให้ความสนใจในตัวของ จู๊ด เบลลิ่งแฮม ไม่ต่างจากทีมดังๆ ในยุโรป 

กองกลางวัย 19 ปี ได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีในช่วงที่ย้ายจาก เบอร์มิ่งแฮม ซิตี้ ไป ดอร์ทมุนด์ ดังนั้นทำไม ‘เรือใบสีฟ้า’ จะไม่สามารถทำแบบนั้น แถมน่าสนใจไม่น้อยว่าเขาจะเหมาะกับบทบาทไหน เมื่อย้ายไปเล่นในทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า และอาจต้องเปลี่ยนระบบการเล่นใหม่อีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม นั่นก็ไม่ใช่ปัญหาเช่นกัน เพราะ เป๊ป ได้เปลี่ยนระบบมาแล้วเพื่อรองรับการมาของ เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ ซึ่งได้ผลลัพธ์ที่ดีอย่างมาก และการมาของ จู้ด เพื่อนเก่าจาก ดอร์ทมุนด์ อาจทำให้ ‘เรือใบ’ แกร่งขึ้นไปอีกระดับแน่นอน 

โอกาสเกิดขึ้น :3/5

 

เรอัล มาดริด

แค่ชื่อของ เรอัล มาดริด ก็น่าจะดึงดูดแข้งดาวรุ่งมากหน้าหลายตาให้ย้ายมาเล่นกับพวกเขาแล้ว ซึ่ง เบลลิ่งแฮม ที่กำลังเล่นใน เยอรมนี จึงไม่น่ากังวลนักในการค้าแข้งนอกบ้านเกิด และบางที ‘ราชันชุดขาว’ อาจเป็นบททดสอบที่สำคัญที่สุดในเรื่องนี้ก็เป็นได้ ซึ่งเขาจะได้เรียนรู้ประสบการณ์จากกองกลางตัวเก๋าในทีม ทั้ง ลูก้า โมดริช ในวัย 37 ปี และ โทนี่ โครส ในวัย 33 ปี

ทว่าก็ยังไม่มีความแน่นอนว่าใครจะได้ทำหน้าคุมทัพในถิ่น ซานติอาโก้ เบอร์นาเบว ฤดูกาลหน้า หลังทีมกำลังเสียแชมป์ลา ลีกาให้กับ บาร์เซโลน่า โดยที่แต้มห่างกันสุดกู่ และ คาร์โล อันเชล็อตติ กุนซือคนปัจจุบันก็กำลังตกเป็นข่าวกับทีมชาติบราซิล แต่กองกลางจาก ดอร์ทมุนด์ จะมั่นใจได้แน่ๆ ว่า กุนซือดีกรีแชมป์จะต้องเข้ามาคุมทีม ‘โลส บลังโกส’ แน่นอน หาก อันเช่ ไม่ได้ไปต่อจริงๆ

อย่างไรก็ตาม มาดริด ก็มีรายงานว่าพวกเขาไม่ต้องการจ่ายมากกว่า 70 ล้านปอนด์ เพื่อคว้ากองกลางเนื้อหอมมาร่วมทีม อีกทั้งตำแหน่งกองกลางก็ไม่ใช่ตัวเลือกแรกๆ ในการเสริมทัพอยู่แล้ว เพราะนอกจาก โมดริช และ โครส ทีมก็ยังมี เอดูอาร์โด้ คามาวิงก้า, ออเรเลียง ชูอาเมนี่ และ เฟเดริโก้ บัลเบร์เด้

โอกาสเกิดขึ้น :3/5

 

ลิเวอร์พูล

นอกจาก เรอัล มาดริด แล้ว ลิเวอร์พูล คืออีกทีมที่ตกเป็นข่าวสนใจในตัว เบลลิ่งแฮม อย่างหนัก ทว่าในตอนนี้ พวกเขากลับตัดสินใจถอยออกมาดูสถานการณ์ก่อน เนื่องจากราคาค่าตัวที่แพงเกินไปในสายตาของ เฟนเวย์ สปอร์ตส กรุ๊ป ซึ่งคาดกันว่า ดาวรุ่งรายนี้อาจมีราคาแตะสูงเกิน 100 ล้านปอนด์เลยทีเดียว

ทว่าหลังจากได้แค่ 2 ถ้วย จากการที่เคยลุ้น 4 แชมป์ในฤดูกาลก่อน ฤดูกาลนี้ ทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ได้เผยให้เห็นจุดอ่อนที่จำเป็นต้องแก้ไขอย่างมาก ทั้งนักเตะบางส่วนที่อายุมากขึ้น หรือกำลังสำรองที่ไม่สามารถทดแทนตัวหลักได้

เดอะ ค็อป ต่างผิดหวังกับผลงานของแดนกลางในฤดูกาลนี้อยู่แล้ว แต่ข่าวของกองกลางทีมชาติอังกฤษ อาจกำลังเปลี่ยนวิธีการบริหารสโมสรและนโยบายการซื้อของ ‘หงส์แดง’ ในเวลาต่อมาก็เป็นได้

โอกาสเกิดขึ้น :3/5

 

แล้ว แมนฯยูไนเต็ด, เชลซี หรือนิวคาสเซิ่ลล่ะ?

หากเลือกได้ คงไม่มีสโมสรไหนไม่อยากได้ตัวของ เบลลิ่งแฮม ไปอยู่ในทีมแน่นอน โดย แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ของ เอริค เทน ฮาก และ นิวคาสเซิ่ล ของ เอ็ดดี้ ฮาว มีแนวทางการเสริมทัพคล้ายๆ กัน นั่นก็คือเน้นผู้เล่นดาวรุ่งที่สามารถพัฒนาได้เข้ามา 

แม้ทีมอย่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ หรือ เรอัล มาดริด สามารถการันตีความสำเร็จให้ได้มากกว่าในถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด หรือ เซนต์ เจมส์ ปาร์ค แต่เขาจะกลายเป็นศูนย์กลางของทั้ง ‘ปีศาจแดง’ หรือ ‘สาลิกาดง’ แน่นอน หากย้ายมา และอาจพัฒนาไปได้ไกลกว่าปีก่อนๆ ด้วย เพียงโอกาสที่นักเตะจะเลือกย้ายมาต้องบอกว่ามีน้อยมากๆ เหมือนกัน 

เชลซี ก็เป็นอีกทีมที่ให้ความสนใจ ทว่าพวกเขาคว้านักเตะดาวรุ่งมาร่วมทีมหลายรายแล้ว ดังนั้นก่อนคิดเรื่องคว้า จู๊ด พวกเขาจึงจำเป็นต้องขายบางคนออกไปเพื่อหลีกเลี่ยงบทลงโทษเกี่ยวกับการเงิน หลังใช้เงินไปแล้วมากกว่า 550 ล้านปอนด์ในการเสริมทัพฤดูกาลนี้ บวกกับการพลาดตั๋วไปเล่น แชมเปี้ยนส์ลีก ฤดูกาลหน้า คงต้องกาชื่อทิ้งในการคว้ากองกลางรายนี้ไปได้เลย

โอกาสเกิดขึ้น :2/5

 

อยู่ดอร์ทมุนด์ต่อ

ถึงการย้ายไปทีมดังๆ ในตอนนี้ จะน่าสนใจ แต่บางที การอยู่กับ ดอร์ทมุนด์ ต่อไปอาจเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดของ เบลลิ่งแฮม ก็ได้ เพราะอย่าลืมว่าตอนนี้ เขายังไม่ใช่นักเตะที่ครบเครื่องที่สุด และมีโอกาสก้าวขึ้นไปเป็นกัปตันทีมได้ในฤดูกาลหน้า หากเลือกค้าแข้งใน เยอรมนี ต่อไป อีกทั้งยังไม่ต้องโดนแฟนๆ หรือสื่อจับตามองจนทำให้กดดันอีกด้วย

แม้ยังไม่การันตี 100 เปอร์เซนต์ แต่ ‘เสือเหลือง’ ก็น่าจะคว้าตั๋วไปเล่น แชมเปี้ยนส์ลีกได้ในฤดูกาลหน้า อีกทั้งนี่ถือเป็นปีที่พวกเขามีโอกาสหยุดสถิติคว้าแชมป์บุนเดสลีก้า 10 ปีติดต่อกันของ บาเยิร์น มิวนิค ด้วย

ด้วยฟอร์มการเล่นและศักยภาพ ทำให้ กองกลางวัย 19 ปี อาจสามารถเลือกได้ว่าจะย้ายไปเล่นที่ไหน ไม่ว่าจะเป็น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ หรือเรอัล มาดริด แต่ความกดดันในการแข่งขันทุกสัปดาห์หนักหนาต่างจากที่ที่เขาอยู่ในตอนนี้หลายเท่า และนักเตะที่ไม่สามารถทำตามความคาดหวังได้ในทันที ก็จะหลุดจากตำแหน่งตัวจริง หรือแม้กระทั่งต้องย้ายทีมออกไปแบบไม่น่าจดจำก็มี

จู๊ด จะเป็นผู้เล่นที่ยอดเยี่ยมแน่นอน แต่ก่อนที่เขาจะย้ายไปเล่นให้ทีมระดับท็อปในยุโรป การเก็บประสบการณ์กับ ดอร์ทมุนด์ อีกสัก 1 ปี ก็ไม่ใช่เรื่องแย่แต่อย่างใด

โอกาสเกิดขึ้น :4/5

 

บทความที่เกี่ยวข้อง