อนาคตของ ราฮีม สเตอร์ลิ่ง กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ดูเป็นเรื่องที่แน่นอนเท่าไหร่นักจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา
นับตั้งแต่โชว์ผลงานเด่นกับทีมชาติอังกฤษในศึกยูโร 2020 ดาวเตะวัย 26 ปี ก็ไม่สามารถทำผลงานระดับนั้นในสโมสรได้เลย โดยยิงกับแอสซิสต์อย่างละลูกเท่านั้น จากการลงสนาม 11 นัดในทุกรายการ ซึ่งส่วนใหญ่ก็ตกเป็นตัวสำรองตามหลัง แจ็ค กรีลิช, ฟิล โฟเด้น และ กาเบรียล เฆซุส
นั่นทำให้เจ้าตัวยอมรับแบบตรงไปตรงมาว่าอาจพิจารณาลา เอติฮัด สเตเดี้ยม เช่นกัน เพื่อโอกาสลงเล่นที่มากขึ้น และดูเหมือนว่า เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ก็ไม่รั้งเช่นกัน หากนักเตะจะย้ายทีม พร้อมยืนยันชัดเจนว่าไม่สามารถการันตีเวลาลงสนามให้ใครได้ทั้งนั้น นอกเหนือจากผลงานที่จะเป็นตัวตัดสินเรื่องนี้
ถ้าหาก ดาวเตะชาวอังกฤษ ลา ‘เรือใบสีฟ้า’ จริงๆ ทีมไหนล่ะที่เหมาะจะเป็นสถานีต่อไปของเขา และ UFA ARENA จะขอพาไปพบกับ 7 สโมสรเหล่านี้กัน
นิวคาสเซิล
ด้วยความที่ นิวคาสเซิล กลายร่างเป็นทีมที่ร่ำรวยที่สุดในพรีเมียร์ลีก ณ ตอนนี้ หลังการเข้ามาเทคโอเวอร์ของกลุ่มทุ่นจาก ซิอุดิอาระเบีย ไม่แปลกที่พวกเขาจะมีข่าวลือกับนักเตะตลอดช่วงที่ผ่านมา
ด้วยจำนวนเงิน 320 พันล้านปอนด์ของกลุ่มทุ่นซาอุฯ ทำให้การเรีกยร้องค่าเหนื่อยไม่เป็นอุปสรรคในการเสริมทัพแข้งใหม่อีกต่อไป
แน่นอนว่าความสำเร็จที่สิ่งที่ไม่สามารถทำได้ภายในเวลาแค่ข้ามคืน แต่เชื่อว่า สเตอร์ลิ่ง จะได้การันตีตัวจริงใน ‘สาลิกาดง’ แน่นอน และอาจต้องเวลาอีกพอสมควรหากหวังจะคว้าแชมป์สักรายการในถิ่น เซนต์ เจมส์ ปาร์ค จริงๆ
บาร์เซโลน่า
การได้กลับไปเล่นร่วมกับเพื่อนร่วมทีมเก่าอย่าง เซร์คิโอ อเกวโร่ และ เอริค การ์เซีย ที่ บาร์เซโลน่า ก็เป็นตัวเลือกที่ไม่เลวเลย
จริงอยู่ที่ ‘อาซูลกราน่า’ ชุดปัจจุบันคือช่วงที่สโมสรตกต่ำที่สุดในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา หลังปัญหาทางการเงินที่สะสมมานานจนส่งผลให้ต้องปล่อย ลิโอเนล เมสซี่ ออกไปในซัมเมอร์นี้ แต่ก็ไม่ต้องสงสัยว่าพวกเขายังเป็นหนึ่งในสโมสรที่โด่งดังเป็นอันดับต้นของวงการลูกหนังอยู่ดี
ลิเวอร์พูล
6 ปีหลังจากที่โบกมือลา ลิเวอร์พูล มายัง แมนฯ ซิตี้ สเตอร์ลิ่ง คงคาดหวังเช่นกันว่าจะได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจาก เดอะ ค็อป เมื่อใดก็ตามที่เขาย้ายกลับไปที่แอนฟิลด์ อีกครั้ง
ความสามารถในการเล่นตำแหน่งเกมรุกอันหลากหลายทำให้ ดาวเตะทีมชาติอังกฤษ ดูเหมาะสมกับทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ไม่น้อยเลย เพียงแต่หากย้อนดูประวัติช่วงท้ายๆตอนที่เขาลา ‘หงส์แดง’ ในปี 2015 ก็ไม่น่าเป็นได้ที่หลายคนจะต้อนรับหรือยินยอมให้แข้งวัย 26 ปีได้กลับมาสวมชุดสีแดงในเมอร์ซี่ย์ไซด์อีกครั้ง
ทว่าโลกฟุตบอลอะไรก็เกิดขึ้นได้เสมอ คิดแบบนั้นไหมล่ะ?
เรอัล มาดริด
ข่าวลือนี้กับ เรอัล มาดริด แพร่สะพัดในหน้าสื่อมาระยะหนึ่งแล้ว และรู้สึกว่ามีโอกาสเกิดขึ้นได้จริงเช่นกัน หากดูสิ่งที่เกิดขึ้นในสโมสร ณ ปัจจุบัน
ก่อนหน้านี้ ดาวเตะของ ซิตี้ เผยออกปากชื่นชมเจ้าของแชมป์ยุโรป 13 สมัยมาแล้ว จากการให้สัมภาษณ์กับ AS สื่อแดนกระทิง เมื่อปีก่อนว่า “เรอัล มาดริด เป็นสโมสรที่สุดยอด เมื่อคุณเห็นเสื้อสีขาวนั้น คุณจะรู้ว่าสโมสรต่อสู้เพื่ออะไร มันยิ่งใหญ่มาก”
และเมื่อ แกเร็ธ เบล กำลังหมดสัญญาในซัมเมอร์หน้า และ การที่ เอเด็น อาซาร์ ยังเค้นฟอร์มเก่งไม่ได้ใน ซานติอาโก้ เบอร์นาเบว นี่จึงอาจเป็นช่องโหว่ใหญ่ที่ต้องถูกเติมเต็มในทีมของ คาร์โล อันเชล็อตติ ภายในอนาคตอันใกล้ก็เป็นได้
อาร์เซน่อล
อย่างที่เห็นว่า อาร์เซน่อล ในตอนนี้กำลังพยายามพัฒนาทีมขึ้นมาอย่างช้าๆ แต่การย้ายมาเล่นที่ ลอนดอน ก็ถือเป็นโอกาสที่น่าสนใจเช่นกัน แม้ดูเป็นการเลือกเล่นให้ทีมที่ด้อยกว่า ซิตี้ ก็ตาม
ช่วงแรกเริ่ม ‘ปืนใหญ่’ อาจใช้เวลาอย่างน้อย 2-3 ปีเพื่อกลับไปเล่นในแชมเปี้ยส์ลีกอีกครั้ง หลังฤดูกาลนี้เป็นครั้งแรกในรอบ 26 ปีที่พวกเขาไม่ได้เล่นในบอลยุโรปแม้แต่รายการเดียว
คำถามก็คือหากย้ายไปเล่นที่ เอมิเรสต์ สตเดี้ยม ราฮีม จะสามารถยกระดับทีมได้มากน้อยแค่ไหน รวมไปถึงการแย่งตำแหน่งตัวจริงจาก ปิแอร์ เอเมอริค โอเบาเมยอง หรือ บูคาโย่ ซาก้า ก็ไม่ง่ายด้วย
ปารีส แซงต์-แชร์กแมง
ปารีส แซงต์-แชร์กแมง คืออีกสโมสรที่ร่ำรวยเป็นอันดับต้นๆในยุโรป ดังนั้นเรื่องเงินๆทองๆ จึงไม่ใช่ปัญหากสำหรับทีมจากแดนน้ำหอม
โชคไม่ดีเท่าไหร่ สำหรับ สเตอร์ลิ่ง เพราะเขาต้องหาทางเบียด คิลิยัน เอ็มบัปเป้, เนย์มาร์ และโดยเฉพาะ ลิโอเนล เมสซี่ ออกจากตำแหน่ง 11 ตัวจริงของเมาริซิโอ โปเช็ตติโน่ให้ได้ หากเลือกย้ายไปที่ ปาร์ค เดส์ แพรงส์ ในอนาคตอันใกล้
โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์
ด้วยผลงานอันยอดเยี่ยมทำให้ เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ ได้รับความสนใจจากสโมสรดังทั่วยุโรป และแน่นอนว่าเขาคงไม่ปักหลักเล่นให้ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ไปมากกว่าสัญญา 2 ปีที่เหลืออยู่ใน ซึกนัล อิดูน่า ปาร์ค แน่นอน
ชัดเจนว่า สเตอร์ลิ่ง คงยากจะเทียบความร้อนแรงกับ ดาวยิงทีมชาตินอร์เวย์ในตอนนี้ แต่ก็เป็นตัวเลือกที่ ‘เสือเหลือง’ ไม่ควรมองข้ามเช่นกัน หากต้องเสีย ฮาแลนด์ไปในเร็วๆนี้
อีกทั้งการมี จู๊ด เบลลิ่งแฮม รุ่นน้องทีมชาติอยู่ น่าทำให้ดาวเตะวัย 26 ปี ปรับตัวเข้ากับฟุตบอลเยอรมัน รวมถึงวิถีชีวิตในเมืองได้รวดเร็วยิ่งขึ้น และเชื่อว่า ดอร์ทมุนด์ ก็เป็นอีกสโมสรที่เขาต้องพิจารณาไว้เช่นกัน