เหล่านักฟุตบอลมากมายล้วนเป็นแบบอย่างให้กับผู้คนในยุคสมัยใหม่ และวิธีหนึ่งที่พวกเขาพยายามทำให้โลกนี้น่าอยู่ขึ้นคือการบริจาคเพื่อการกุศลและการทุ่มเทให้กับงาน โดยที่ไม่ต้องบอกว่าผมเป็นใคร
การเป็นผู้เล่นที่ใจบุญชอบช่วยเหลือผู้อื่น ไม่จำเป็นต้องเป็นนักเตะที่เก่งที่สุดหรือร่ำรวยที่สุด ก็สามารถช่วยเหลือผู้คนมากมายได้ เนื่องจากรายได้อันมหาศาลของพวกเขาในวงการลูกหนังยุคปัจจุบัน
แข้งบางคนที่เคยเติบโตในฐานะยากจนมาก่อนก็พยายามกลับไปช่วยเหลือบ้านเกิดและชุมชนของตัวเองหลังกลายเป็นนักเตะที่มีชื่อเสียงในเวลาต่อมา ขณะที่หลายคนก็สนับสนุนองค์กรที่ทำงานเพื่อสวัสดิการสังคมอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งหยิบยกมาทั้งหมดคงยืดเยื้อเกินไปหน่อย
ดังนั้น UFA ARENA จึงขอยกตัวอย่าง 10 คนลูกหนังใจบุญผู้ช่วยเหลืองสังคม โดยที่ไม่ต้องสั่งคนใกล้ตัวว่า “อย่าบอกว่าผมเป็นใคร”
ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา
อดีตกองหน้าระดับตำนานของ เชลซี อย่าง ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา เป็นที่รู้จักกันดีในฐานะแข้งที่อุทิศตัวเต็มที่เพื่อช่วยเหลือ ไอวอรี่โคสต์ ประเทศบ้านเกิด และความพยายามของเขาก็สามารถหยุดสงครามกลางเมืองในปี 2006 รวมถึงการช่วยให้หมู่บ้านเล็กในชนบทเข้าถึงไฟฟ้าได้
ครั้งหนึ่ง อดีตหอก ‘สิงห์บลูส์’ เคยถูกนิตยสาร TIME ยกให้เป็นบุคคลทรงอิทธิพลมากที่สุดในปี 2010 ด้วย ซึ่งเป็นเวลาไล่เรี่ยกับที่เขาก่อตั้งมูลนิธิของตัวเองขึ้นมากเพื่อช่วยเหลือเรื่องการศึกษาของเด็กๆและการดูแลสุขภาพ
ลิโอเนล เมสซี่
ลิโอเนล เมสซี่ ถือเป็นไอคอนของฟุตบอลสมัยใหม่และถูกยกให้เป็นนักเตะที่ดีที่สุดที่เคยมีมาในกีฬาชนิดนี้ และในเรื่องการตอบแทนสังคม ชื่อของเลโอก็โผล่ให้เห็นในหน้าสื่อบ่อยครั้ง ทั้งการช่วยเหลือโรงพยาบาลในอาร์เจนติน่าบ้านเกิด หรือช่วยบริจาคเงินเพื่อพัฒนาระบบการศึกษาในประเทศจากเอเชียมากมาย
อีกทั้งในช่วงที่โควิด-19 แพร่ระบาดใหม่ช่วงต้นปี 2020 ดาวเตะเจ้าของบัลลงดอร์ ควักเงิกในกระเป๋ากว่า 1 ล้านยูโร บริจาคให้กับ Hospital Clinic ในเมืองบาร์เซโลน่า เพื่อใช้ต่อสู่กับโรคร้ายด้วย
คริสเตียโน่ โรนัลโด้
นอกเหนือจากการเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่เก่งที่สุดแล้ว คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ยังเป็นที่รู้จักกันดีในฐานะแข้งผู้การตอบแทนสังคม โดยเข้าไปมีส่วนกับโครงการ ‘Save the Children’ ซึ่งหาเงินบริจาคให้กับเด็กๆ ที่ได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวในเนปาลในปี 2015
นอกจากนี้ CR7 ยังช่วยสร้างโรงเรียนในตะวันออกกลางในปี 2012 หลังจากประมูลรางวัลรองเท้าทองคำของเขา รวมถึง บริจาคเงิน 83,000 ดอลลาร์สำหรับการผ่าตัดเด็กอายุ 10 ขวบ และแน่นอว่าในช่วงโควิดระบาด ดาวเตะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็ควง จอร์จ เมนเดส เอเย่นต์คู่ใจ บริจาคเงินถึง 1 ล้านยูโร สร้างศูนย์พยาบาลผู้ป่วยติดเชื้อใหม่ที่ประเทศบ้านเกิด
เมซุต โอซิล
เมซุต โอซิล ยังเป็นหนึ่งในนักฟุตบอลที่ทำงานร่วมกับองค์กรการกุศลเป็นประจำ และเป็นที่รู้จักในฐานะผู้สนับสนุนสิทธิมนุษยชนอย่างชัดเจน แม้บางครั้งการโพสต์ถึงเรื่องนี้บนโซเชียล มีเดีย จะทำให้กระทบกับอาชีพค้าแข้งของเขาก็ตาม
เพลย์เมกเกอร์จาก เฟเนร์บาห์เช่ เคยบริจาครายได้ฟุตบอลโลกปี 2014 ของเขาช่วงที่พาทีมชาติเยอรมันคว้าแชมป์โลก จำนวน 237,000 ปอนด์เพื่อเป็นทุนสนับสนุนการผ่าตัดเด็ก 23 คน
ลีออน โกเร็ตซ์ก้า, โจชัว คิมมิช
บุนเดสลีก้า เป็นลีกลูกหนังที่โดนพิษโควิด-19 เล่นงานไม่ต่างจากลีกลูกหนังใหญ่ในยุโรปเช่นกัน โดยเยอรมันเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อมากที่สุดในยุโรปเป็นอันดับ 3 รองจาก อิตาลี และ สเปน
นั่นทำให้ เลออน โกเร็ตซ์ก้า และ โยชัว คิมมิช 2 ผู้เล่นตัวหลักของ บาเยิร์น มิวนิค ได้ก่อตั้งมูลนิธิ We Kick Corona ขึ้น และบริจาคเงินเปิดหัวไปก่อน 1 ล้านยูโร พร้อมกับเปิดรับบริจาคเพิ่มเติมผ่านทางเว็บไซต์
ล่าสุด ยอดเงินบริจาคนั้นทะลุ 3 ล้านยูโรเรียบร้อยแล้ว โดยมีนักเตะมากมายเข้าร่วมสมทบทุนในครั้งนี้ ทั้งคนที่กำลังค้าแข้งหรือเคยค้าแข้งในลีกเมืองเบียร์ ไม่ว่าจะเป็น มัตส์ ฮุมเมิลส์, โยนาส เฮ็คเตอร์, ลีรอย ซาเน่ หรือ จูเลี่ยน ดรักซ์เลอร์ เป็นต้น
ฆวน มาต้า
ฆวน มาต้า โดดเด่นกว่าคนอื่นๆในลิสต์นี้พอสมควร เพราะเขาไม่เพียงแต่บริจาคเงินเท่านั้น แต่ยังพยายามชักชวนเพื่นร่วมอาชีพให้เข้าร่วมโครงการที่เขาก่อตั้งอย่าง ‘Common Goal’ ในปี 2017
เป้าหมายของกลุ่มนี้คือการรวมรวบนักเตะและเหล่ากุนซือในวงการลูกหนังกว่า 122 คน เพื่อบริจาคเงิน 1% จากรายได้ต่อเดือนของพวกเขาให้การกุศล แม้ 1% อาจดูเล็กน้อย แต่อย่าลืมว่าปัจจุบันค่าเหนื่อยของพวกเขามากขนาดไหนในตอนนี้ โดยพวกเขามอบเงินให้กับองค์กรพัฒนาเอกชนทั่วโลกเพื่อช่วยเหลือคนในสายงานของแต่ละองค์กร รวมไปถึงองค์กรการกุศลในท้องถิ่นด้วย
แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน
ฟูลแบ็คจอมอึดของลิเวอร์พูลอย่าง แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ที่เล็งเห็นปัญหาในช่วงโควิดระบาด จึงทำการบริจาคอาหารจำนวนมากให้ธนาคารอาหาร 6 แห่ง ที่เมืองกลาสโกว์ ประเทศสกอตแลนด์บ้านเกิดของตน
รวมไปถึงองค์กรของเขา ‘AR26’ มุ่งหวังที่จะให้การเข้าถึงการฝึกซ้อมฟุตบอลแบบไม่เสียค่าใช้จ่าย,การศึกษา,งาน และการจัดหาสิ่งอำนวยความสะดวกด้านการดูแลสุขภาพแก่คนหนุ่มสาวที่ป่วยหนัก
ซาดิโอ มาเน่
ในทวีปแอฟริกาแม้ไม่การแพร่ระบาดมากเท่ากับในยุโรป แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะปลอดภัยจากโควิด-19 และประเทศเซเนกัลเป็นหนึ่งในประเทศที่มีรายงานผู้ติดเชื้อมากสุดเป็นอันดับต้นๆของทวีป (79 ราย)
ทว่าในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ซาดิโอ มาเน่ ปีกตัวจิ๊ดจากลิเวอร์พูล ได้บริจาคเงิน 41,000 ปอนด์ให้กับประเทศบ้านเกิดต่อสู้กับโรคร้าย อีกทั้งยังเตือนให้ชาวเซเนกัลล้างมือนาน 30 วินาที และไม่ไปร่วมตัวในที่ชุมชนเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดผ่านทางโซเชียล มีเดียของเขา
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ อดีตแข้ง เซาแธมป์ตัน บริจาคเงินให้กับบ้านเกิด เพราะก่อนหน้านี้ในปี 2018 เขาเคยมอบเงินให้เพื่อสร้างโรงเรียน, มัสยิด, โรงพยาบาล หรือ สนามกีฬา มาแล้ว แต่ไม่รู้เคยลั่นวาจาว่า “อย่าบอกว่าผมเป็นใคร” เหมือนกับอดีตนักการเมืองบางประเทศที่โผล่ไปช่วยน้ำท่วมหรือไม่
มาร์คัส แรชฟอร์ด
ในฐานะที่เคยเติบโตมาอย่างยากลำบากทำให้ มาร์คัส แรชฟอร์ด พยายามตอบแทนสังคมในบ้านเกิด หลังตนเองกลายเป็นนักเตะที่มีชื่อเสียงกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นับตั้งแจ้งเกิดในชุดใหญ่เมื่อปี 2016
นอกเหนือจากผลงานในสนามแล้ว กองหน้า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มักได้รับคำชื่นชมจากแฟนบอลหลายต่อหลายครั้ง จากการเคยออกมาช่วยเหลือเด็กๆ หรือกลุ่มคนด้อยโอกาสในบ้านเกิดเสมอ เช่น การส่งจดหมายเรียกร้องให้รัฐบาลแจกอาหารฟรีในโรงเรียนต่อไป หรือ ช่วยเหลือคนไร้บ้านช่วงคริสต์มาส
บทความที่เกี่ยวข้อง
