เกมโต้กลับ อาร์เจนติน่า สุดอันตรายกระซวก โครเอเชีย 3-0 โดย อัลวาเรซ เป็นพระเอกยิง 2 ประตู
ฟุตบอลโลก 2022 รอบรองชนะเลิศ เมื่อวันอังคารที่ 13 ธันวาคม 2565 ที่สนามลูซาอิล ไอคอนิล สเตเดี้ยม “ฟ้าขาว” อาร์เจนติน่า ที่รอบ 8 ทีมชนะจุดโทษ เนเธอร์แลนด์ ลงตัดเชือกกับ “ตราหมากรุก” โครเอเชีย ที่พลิกล็อกชนะจุดโทษเต็ง 1 บราซิล
เกมนี้ ลิโอเนล สกาโลนี่ กุนซือของ อาร์เจนติน่า วางทีมมาสู้ในระบบ 4-4-2 เลือกส่ง เลอันโดร ปาเรเดส ลงมาเล่นกองกลางคู่กับ เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ หน้าคู่เลือกเป็น ลิโอเนล เมสซี่ กับ ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ
ด้าน ซลันโก้ ดาลิช เฮดโค้ช โครเอเชีย ส่งทีมชุดใหญ่ลงสนามในระบบ 4-3-3 เดยัน ลอฟเรน คุมเกมรับกับ ยอสโก้กวาร์ดิโอล แดนกลางมี ลูก้ส โมดริช, มาเตโอ โควาซิซ, อิวาน เปริซิซ ทำเกมสนับสนุนหน้าเป้า อังเดร ครามาริช
เกมครึ่งแรกแม้ โครเอเชีย ครองเกมได้มากกว่าแต่นาที 34 ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ ได้บอลแทงทะลุช่องหลุดไปแตะอ้อม ลิวาโควิช ก่อนถูกชนล้มลง ผู้ตัดสินเปาเป็นจุดโทษ และเป็น เมสซี่ ที่รับหน้าที่สังหารเข้าไปพลาดให้ ฟ้าขาว ขึ้นนำ 1-0
หลังจากนั้น 5 นาที อาร์เจนติน่า เล่นเกมโต้กลับอีกครั้ง เมสซี่ จิ้มบอลจากกลางสนามให้ ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ โซโล่เดี่ยวจากครึ่งสนามก่อนพาบอลหนี ยูราโนวิช และ โซซ่า ก่อนดีดผ่านมือ ลิวาโควิช เข้าไปอีกประตูช่วยให้ทีมหนีห่าง 2-0
กลับมาครึ่งหลังเกมโต้กลับของ อาร์เจนติน่า มาแผลงฤทธิ์อีกครั้งในนาที 69 เมสซี่ อาศัยความสามารถเฉพาะตัวพาบอลหนี กวาร์ดิโอล หลุดไปสุดเส้นก่อนตลเข้ากลางมาให้ อัลวาเรซ ตวัดยิงจ่อๆ เข้าประตูไปเป็นลูกที่สองของตัวเองและช่วยให้ทีมหนีห่าง 3-0
ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่มเติม จบเกม อาร์เจนติน่า ถล่ม โครเอเชีย 3-0 ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศไปรอพบผู้ชนะระหว่าง ฝรั่งเศส หรือ โมร็อกโก
