ศึกฟุตบอลโลก 2022 นัดชิงชนะเลิศระหว่างแชมป์เก่าทีมชาติฝรั่งเศสพบกับตัวเต็งอย่างทีมชาติอาร์เจนติน่า
เริ่มเกมมาได้แค่ 4 นาทีเป็นอาร์เจนติน่าที่ได้ทักทายก่อนจากจังหวะที่ อองตวน กรีซมันน์ คืนบอลพลาดโดน ฆูเลี่ยน อัลบาเรซ ตัดไปได้ไขว้มาให้กับ อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ ได้ลองยิงไกลจากนอกกรอบ แต่บอลตรงตัว ฮูโก้ ยอริส
นาทีที่ 21 ทัพฟ้าขาวมาได้จุดโทษจากจังหวะที่ อุสมาน เดมเบเล่ ไปเกี่ยว อังเคล ดิ มาเรียล้มลงไปในกรอบเขตโทษก่อนจะเป็น ลิโอเนล เมสซี่ มารับหน้าที่สังหาร และทำได้ไม่พลาดพาทีมขึ้นนำไปด้วยสกอร์ 1-0
นาทีที่ 35 อาร์เจนติน่า ได้ประตูหนีห่างไปอีกจากจังหวะสวนกลับขึ้นมาโดย เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ พาขึ้นมาถึงกรอบเขตโทษก่อนปาดไปให้กับ ดิ มาเรีย ที่เติมขึ้นมาด้วยซัดเข้าไปโล่ง พาทีมออกนำ 2-0
นาทีที่ 78 ฝรั่งเศสมาได้จุดโทษบ้างจากจังหวะที่ นิโคลัส โอตาเมนดี้ ไปเบียดใส่ มาร์คัส ตูราม ล้มลงไปในกรอบเขตโทษ ก่อนจะเป็น คิเลี่ยน เอ็มบัปเป้ มาสังหารเข้าไปพาทีมไล่มาเป็น 2-1 ถัดมานาที .. ตราไก่มาตามตีเสมอได้สำเร็จจากจังหวะไปเบียดแย่งบอลของ คิงสลี่ย์ โกมอง ก่อนให้ต่อไปที่ ตูราม ยกให้ เอ็มบัปเป้ ตวัดซัดเข้าไปเป็นประตูตีเสมอ 2-2
นาทีที่ 108 ทัพฟ้าขาวขึ้นนำอีกครั้งจากจังหวะสวนขึ้นมา เลาตาโร่ มาร์ติเนซ ซัดมุมแคบติดเซฟแต่บอลดันมาเข้าทาง เมสซี่ ชาจจ่อๆเข้าไปทำให้สกอร์เป็นอาร์เจนติน่าขึ้นนำ 3-2 นาทีที่ 116 ฝรั่งเศสมาได้จุดโทษจากจังหวะแฮนด์บอลของตัวสำรองอย่าง กอนซาโล มอนเทียล ก่อนเป็น เอ็มบัปเป้ มาซัดเข้าไปไม่พลาดและกลายเป็นแฮตทริคของเจ้าตัว และพาทีมกลับมาตีเสมอ 3-3
หลังจากนั้นทั้งสองทีมทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ ก่อนที่จะตัดสินกันที่การดวลจุดโทษและเป็นทีมชาติอาร์เจนติน่าที่แม่นกว่า ชนะไปได้ด้วยสกอร์ 4-2 คว้าแชมป์โลกไปได้สำเร็จ
นักเตะที่ลงสนาม
อาร์เจนติน่า : เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ(GK) – นาฮูเอล โมลิน่า, คริสเตียน โรเมโร่, นิโกลัส โอตาเมนดี้, นิโคลัส ตาเกลียฟิโก้ – โรดริโก้ เด ปอล, เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ, อเล็กซิส แม็ก อัลลิสเตอร์ – อังเคล ดิ มาเรีย, ลิโอเนล เมสซี่, ฆูเลี่ยน อัลบาเรซ
สำรอง : มาร์กอส อคุนญ่า(64) , กอนซาโล มอนเทียล(90) , เลอันโดร ปาเรเดส(103) , เลาตาโร่ มาร์ติเนซ(103) , เกมัน เปซเซล่า(115) , เปาโล ดีบาล่า(120)
ฝรั่งเศส : ฮูโก้ ยอริส(GK) – ฌูลส์ กุนเด้, ราฟาเอล วาราน, ดาโยต์ อูปาเมกาโน่, เตโอ แอร์นานเดซ – ออลิยองต์ ชูอาเมนี่, อาเดรียง ราบิโอต์ – อุสมาน เดมเบเล่, อองตวน กรีซมันน์, คิเลี่ยน เอ็มบัปเป้ – โอลิวิเย่ร์ ชิรูด์
สำรอง : ร็องดาล โคโล มัวนี (41) , มาร์คัส ตูราม(41) , เอดูอาร์โด้ คามาวิงก้า(70) , คิงสลี่ย์ โกมอง(70) , ยุสซุฟ โฟฟาน่า (95) , อิบราฮิมา โกนาเต้(111) , แอกเซิล ดิซาซี(120)
Who is: เอ็นโซ่ เฟร์นานเดซ ว่าที่ยอดมิดฟิลด์แห่งอนาคต
