เสริมหนักหัวปักพื้น! 5 ทีมเสริมหนักแต่ตกชั้น

เสริมหนัก

น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ เป็นทีมน้องใหม่หน้าเก่าของศึกพรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2022/23 ซึ่งพวกเขาก็สร้างความฮือฮาตั้งแต่ต้นจากการเดินหน้าเสริมทัพอย่างหนักจนจารึกเป็นสถิติไว้ว่าเป็นทีมที่เสริมทีมมากที่สุดของสหราชอาณาจักรในตลาดซัมเมอร์ด้วยนักเตะที่ตบขาเข้าสู่ทีมจำนวน 21 รายเลยทีเดียว

อย่างไรก็ตามผลงานของพวกเขากลับสวนทางกันอย่างสิ้นเชิง ชนะ 1 เสมอ 1 แพ้ถึง 5 กองอยู่อันดับ 19 ของตาราง วันนี้ UFAARENA จะพาไปดูทีมที่ทุบงบเสริมทัพหนักหน่วงแต่ผลที่ได้กลับตกชั้น

 

เอสปันญ่อล |2019/20| 61 ล้านยูโร

Barcelona 1-0 RCD Espanyol: 5 talking points as the Blaugrana condemn their city rivals to relegation | La Liga 2019-20

ทีมดังจากแคว้นคาตาลันถือเป็นทีมที่โลดแล่นอยู่บนลีกสูงสุดแดนกระทิงดุมาอย่างยาวนาน และมักจะจบด้วยอันดับกลางๆตารางซะส่วนใหญ่ แต่ในปี 2018/19 พวกเขาสามารถขึ้นไปจบที่อันดับ 7 ของตาราง ภายใต้การทำทีมของเจ้าของใหม่อย่างกลุ่มทุนราสตาร์จากจีน ก่อนที่ในซัมเมอร์ 2019/20 พวกเขาจะทุ่มเงินเสริมหนักเข้ามาทั้ง มาเธอัส วาร์กาส ที่เข้ามาด้วยราคาราว 10.5 ล้านยูโร นับเป็นการทำลายสถิติสโมสรในเวลานั้น 

อย่างไรก็ตามเมื่อผลงานไม่ดีขึ้น พวกเขาก็จัดการเสริมทัพอีกในช่วงตลาดเดือนมกราคม ทั้ง ราอูล เด โธมาส ที่เข้ามาด้วยราคาสูงถึง 22.5 ล้านยูโร , อาเดรียน เอ็มบาร์บ้า 10 ล้านยูโร , เลอานโดร คาเบรร่า 9 ล้านยูโร และ แฟร์นานโด คาเรโร่ 8 ล้านยูโร โดยทุกคนเข้ามาในฐานะตัวหลัก แต่ก็ไม่สามารถกู้วิกฤตของทีมได้ สุดท้ายก็ตกชั้นไปด้วยตำแหน่งท้ายตาราง รวมแล้วพวกเขาชนะไปแค่ 5 นัดเท่านั้นในลีก

 

นอริช ซิตี้|2021/22|63 ล้านยูโร

Norwich City Players List 2021/22, Position, Manager, Coaches, Fixtures

นับเป็นทีมที่ขึ้นๆลงๆพรีเมียร์ลีก และ แชมเปี้ยนส์ชิพแบบปีต่อปี ในช่วงซัมเมอร์ก่อนเริ่มซีซั่น 2021/22 พวกเขาเลื่อนชั้นขึ้นมาได้สำเร็จ ก็จัดการทุ่มซื้อนักเตะมาเสริมทัพเพื่อลุยเวทีลีกสูงสุดอย่างบ้าคลั่งสำหรับทีมน้องใหม่ที่ 63 ล้านยูโร ไล่มาตั้งแต่การคว้า คริสตอส โซลิส 11 ล้านยูโร , ไมล็อต ราชิก้า (11 ล้านยูโร) , จอช ซาร์เจนท์(9.50 ล้านยูโร) , เบน กิ๊ปสัน (9.50 ล้านยูโร) และอีกหลายราย จริงอยู่ว่ามันไม่ใช่บิ๊กดีลอะไร แต่รวมแล้วทัพนกขมิ้นเสริมทีมเข้ามาถึง 10 รายด้วยกัน

อย่างไรก็ตามการเสริมทัพที่บ้าคลั่งก็ไม่อาจทำให้พวกเขาต่อกรกับทีมในระดับพรีเมียร์ลีกได้แพ้ยับจนกองอยู่ท้ายตารางตั้งแต่เริ่มซีซั่นยันจบ แม้จะเปลี่ยนผู้จัดการทีมจาก ดาเนี่ยล ฟาร์เค มาเป็น ดีน สมิธ แต่ก็ไม่สามารถช่วยกู้สถานการณ์กลับมาได้เลยแม้แต่น้อย และตกชั้นไปในฐานะบ๊วยตารางที่รู้ผลว่าร่วงแน่แล้วตั้งแต่ที่เกมนัดที่ 33 เลยด้วยซ้ำ

 

แอสตัน วิลล่า |2015/16| 66 ล้านยูโร

Aston Villa 2015/16 Premier League season review | Football News | Sky Sports

หลังจากที่ขายหัวหอกตัวเก่งอย่าง คริสเตียน เบนเตเก้ ออกไปให้กับ ลิเวอร์พูลด้วยค่าตัว 46 ล้านยูโร พวกเขาก็เดินเสิมทัพอย่างต่อเนื่อง เริ่มด้วยตัวแทนในแดนหน้าอย่าง จอร์แดน อายิว ที่มาด้วยค่าตัว 12 ล้านยูโร , จอร์แดน อามาวี่ 11 ล้านยูโร , อดาม่า ตราโอเร่ 10 ล้านยูโร , จอร์แดน แวร์ตูร์ 10 ล้านยูโร ก่อนที่ตลาดซัมเมอร์หนนั้นตัวเลขจะไปจบที่ 60 ล้านยูโร รวมแล้วมีนักเตะย้ายเข้ากว่า 10 ราย

จริงอยู่ขาเข้า-ขาออกค่อนข้างสอดคล้องกัน และในส่วนของผลงานเองเกมแรกของฤดูกาลก็เปิดตัวมาด้วยชัยชนะ แต่หลังจากนั้นฝันร้ายก็เริ่มขึ้นจากการไม่ชนะใครเลย 19 นัดติดต่อกัน ทำให้อันดับลงไปกองอยู่ท้ายตารางแม้หลังจากนั้นจะมีกลับมาชนะบ้างแต่รวมแล้วฤดูกาลดังกล่าวพวกเขาก็ชนะแค่ 3 นัดเท่านั้น ทำให้ต้องตกชั้นไปด้วยตำแหน่งบ๊วยตาราง นับเป็นการตกชั้นไปลีกรองในรอบ 48 ปีของสโมสร แถมยังต้องใช้เวลานานกว่า 3 ฤดูกาลกว่าจะกลับมาพรีเมียร์ลีกได้ในปี 2019/20 ที่ผ่านมานี้เอง

 

ปาร์ม่า |2020/21| 104 ล้านยูโร

2020/21 SEASON FOR PARMA CALCIO 1913 STARTS 24 AUGUST 2020 - Footballghana

หลังจากใช้เวลากว่า 3 ปี ในการทะยานขึ้นจากเซเรียดี ขึ้นมาสู่เวทีลีกสูงสุดอีกครั้ง ทางจัลโล่บลูก็สามารถประคองตัวเองในเซเรียอามาได้ 2 ปี พวกเขาก็เริ่มรู้สึกว่าขุมกำลังที่มีอยู่ไม่อาจต่อกรกับทีมอื่นๆได้จากการที่ต้องอยู่ในโซนกลางไปจนถึงท้ายตาราง ซัมเมอร์ก่อนเริ่มฤดูกาล 2020/21 ปาร์ม่าจัดการเดินหน้าเสริมทัพอย่างบ้าคลั่ง ดึงนักเตะมาร่วมทีมกว่า 16 รายด้วยจำนวนเงินกว่า 80 ล้านยูโร โดยมี เดนนิส แมน เป็นนักเตะค่าตัวแพงสุดในรอบนั้นที่ 13 ล้านยูโร 

อย่างไรก็ตามผลงานของพวกเขากลับสวนทางกับเม็ดเงินที่ลงไปเป็นจำนวนมาก ครึ่งซีซั่นแรกพวกเขาเก็บชัยได้แค่ 2 นัดอยู่เหนือโซนตกชั้นแค่นิดเดียวเท่านั้น สุดท้ายก็มีการเปลี่ยนตำแหน่งกุนซือจาก ฟาบีโอ ลิเวรานี มาเป็น โรแบร์โต ดีเวอร์ซา พร้อมกับช็อปนักเตะเพิ่มอีก โดยหนนี้มี โรแบร์โต้ อินเกลเซ่ ที่ดึงมาจากนาโปลีด้วยราคากว่า 22 ล้านยูโร เป็นดีลที่แพงที่สุดในตลาดกนนี้ แต่สุดท้ายแล้วฟอร์มก็ไม่ได้ดีขึ้นแถมแย่ลงไปอีกจากที่อยู่เหนือโซนตกชั้น กลายเป็นจมบ๊วยอย่างสมบูรณ์ รวมแล้วทั้งซีซั่นใช้เงินไปทั้งหมด 104 ล้านยูโร

 

ฟูแล่ม|2018/19| 116 ล้านยูโร

Fulham 2018/19 Review: End of Season Report Card for the Cottagers | ht_media

เจ้าสัวน้อยชื่อนี้ไม่ได้มาเล่นๆ พวกเขาใช้เวลา 3 ฤดูกาลในการกลับมาบนลีกสูงสุดอีกครั้ง ซึ่งตัว สลาวิชา ยอกานอวิช ผู้จัดการทีมในตอนนั้นก็รู้ดีว่าคุณภาพนักเตะของพวกเขายังสู้บนลีกสูงสุดไม่ได้ จึงเริ่มเดินหน้าเสริมทัพไมว่าจะเป็น ฌ็อง เซรี่ 30 ล้านยูโร , อังเดร อองกิสซ่า 25 ล้านยูโร , อเล็กซานเดอร์ มิโตรวิช 25 ล้านยูโร , อัลฟี่ มอว์สัน 17 ล้านยูโร , โจ ไบรอั้น 7 ล้านยูโร , ฟาบรี้ 6 ล้านยูโร และ มักซีม เลอ มาร์กช็องด์ 4 ล้านยูโร ยังไม่รวม อังเดร ชูร์เล่ และ คัลลั่ม แชมเบอร์ ที่ยืมเข้ามาอีก

เมื่อซีซั่นเริ่มขึ้นพวกเขาเริ่มต้นได้อย่างทุลักทุเล ป้วนเปี้ยนอยู่ท้ายตาราง จนทางฟูแล่มตัดสินใจปลด ยอกานอวิช แล้วดึงเคลาดิโอ รานิเอรี่มาแต่ผลงานก็ยังไม่เวิร์ค คุมได้แค่ 3 เดือนก็โดนปลดออกจากตำแหน่ง ก่อนจะเป็นสก็อต พาร์คเกอร์ เข้ามารับช่วงคุมทีมชั่วคราวจนจบซีซั่นแต่ก็ไม่อาจทำให้รอดการตกชั้นได้ นับเป็นทีมที่ลงทุนหนักที่สุดแต่ดันตกชั้นไปซะได้

ซื้อเยอะใช่ว่าดี : 10 ทีมที่เสริมทัพน้อยได้แต่มาก

ซื้อเยอะใช่ว่าดี : 10 ทีมที่เสริมทัพน้อยได้แต่มาก