ได้บัฟพิเศษ! 11 ตัวจริงนักเตะเก่งแต่ในทีมชาติ

การเล่นให้กับทีมชาติบ้านเกิดของตัวเองไม่ว่าจะกับรายการไหนนับเป็นความฝันของนักเตะทุกคน นั่นทำให้ในบางครั้งบางกรณีแม้ผลงานในระดับสโมสรจะไม่ได้ดีมาก แต่เมื่อถูกชาติเรียกใช้งาน พวกเขาก็มักจะทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมเสมอ

วันนี้ UFAARENA จะพาไปจัดทีม 11 ตัวจริง นักเตะที่เล่นให้กับทีมชาติยอดเยี่ยมแต่กับสโมสรไม่น่าประทับใจ ราวกับได้บัปพิเศษจากทีมชาติ

 

เซร์คิโอ โรเมโร่

นายด่านเลือดฟ้าขาวเป็นตัวหลักให้กับทีมชาติมาตั้งแต่ฟุตบอลโลก 2010 โดยเสียไปแค่ 6 ประตูเท่านั้น ก่อนจะจอดป้ายที่รอบ 8 ทีมสุดท้ายด้วยน้ำมือ เยอรมัน ทำให้ชื่อเสียงของเขาเริ่มเป็นที่รู้จัก และเป็น ซามพ์โดเรียที่มาคว้าเขาไปปั้นต่อ

แต่การอยู่กับลาซามพ์ก็ไปได้ไม่สวยนักอยู่ไป 2 ฤดูกาลก็โดนปล่อยไปให้โมนาโกยืมตัว กลับมาก็ไม่ได้เป็นตัวหลัก สุดท้ายก็ปล่อยฟรีไปให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ปี 2015 ในฐานะผู้รักษาประตูมือสอง แต่กับทีมชาติอาร์เจนติน่า เขายังคงเป็นตัวหลักมาตลอด กว่าจะมาหลุดทีมก็ตอนฟุตบอลโลก 2018 ที่มีอาการบาดเจ็บที่หัวเข่าไป และปัจจุบันเจ้าตัวได้อำลาทีมชาติไปเรียบร้อยแล้ว

 

แดดริก โบยาตา

แม้เบลเยี่ยมจะมีกองหลังตัวเก๋าที่น่าไว้ใจ และประสบการณ์สูงมากมาย แต่อดีตเด็กปั้นของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ก็สามารถสอดแทรกขึ้นมาเป็นตัวจริงได้ในศึกฟุตบอลโลก 2018 ซึ่งก็สามารถทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมทั้งที่ตนนั้นระดับสโมสรเจ้าตัวค่อนข้างจัดว่าล้มเหลวหลัง ออกจากเรือใบสีฟ้าตั้งแต่ปี 2015 รวมๆแล้วก็ได้ลงสนามให้กับทีมไปแค่ 35 นัดรวมทุกรายการ น่าเสียดายที่ในยูโร 2016 เจ้าตัวดันมีอาการบาดเจ็บเลยไม่ได้ติดทีมชาติ

อย่างไรก็ตามในปีที่ได้ไปลุยบอลโลกที่รัสเซีย เจ้าตัวก็ไม่ได้มีฟอร์มที่ดีเด่นอะไรมากมายกับ เซลติค เมื่อเทียบกับแนวรับที่เบลเยี่ยมมีอยู่ แต่โบยาตาดันทำผลงานดีตั้งแต่เกมกระชับมิตร จนลากยาวมาได้ลุยรอบแบ่งกลุ่มทั้งสามนัดในฐานะตัวจริงที่ลงครบ 90 นาทีอีกด้วย โดยเสียไปแค่ 3 ประตูเท่านั้น

 

แฮรี่ แม็คไกวร์

อันดับหนึ่งตัวแพะรับบาปของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่มักก่อความผิดพลาดบ่อยครั้งให้เห็นในระดับสโมสร แม้จะมีสถานะเป็นกัปตันทีมก็ตาม แต่กับทีมชาติอังกฤษภายใต้การคุมทีมของ แกเร็ธ เซาธ์เกต เจ้าตัวเป็นตัวหลักและตัวสำคัญของทัพสิงโตคำรามเสมอ แถมในการเล่นกับทีมชาติ แม็คไกวร์ แทบไม่ก่อความผิดพลาดให้เห็นเลย แถมยังโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมอีกด้วย

ไม่ว่าจะเป็นเกมรับ หรือการช่วยเกมรุก แข้งปีศาจแดงรีดศักยภาพของตัวเองออกมาโชว์ให้เห็นว่าทำไมถึงมีค่าตัวระดับ 80 ล้านปอนด์ แต่เมื่อกลับไปเล่นให้สโมสรก็กลายเป็นฟอร์มผิดพลาดเหมือนเดิม อย่างในฤดูกาลนี้ เจ้าตัวก็แทบไม่ได้ลงสนามให้กับทีม แต่ก็ยังได้ไปลุยบอลโลก 2022 ร่วมกับชาติในฐานะตัวหลัก

 

ลุค ชอว์

อีกหนึ่งนักเตะทีมชาติอังกฤษที่ฟอร์มในระดับสโมสรไม่ได้ถึงกับแย่ขนาดนั้น เพียงแต่เจ้าตัวไม่สามารถรักษาความสม่ำเสมอไว้ได้เลยวันไหนเล่นดีก็ดีใจหาย วันไหนเล่นแย่ทุกอย่างก็แย่ไปหมด นอกจากนี้ยังมีอาการบาดเจ็บที่ตามรบกวนอยู่เป็นระยะ ทำให้ไม่สามารถทำผลงานต่อเนื่องได้สักที

อย่างไรก็ตามกับทัพผู้ดี ชอว์เป็นตัวหลักในตำแหน่งแบ็คฝั่งซ้ายเสมอ แถมยังเล่นได้ดีอีกด้วย โดยพาชาติบ้านเกิดไปไกลถึงรอบชิงยูโร 2020 แต่ถึงอย่างนั้นเมื่อกลับมาที่สโมสรก็กลับมาโชว์ฟอร์มเหมือนเดิม แถมยังหลุดไปเป็นสำรองในบางช่วงด้วยซ้ำไป

 

พอล ป็อกบา

กองกลางดีกรีแชมป์โลก ค่าตัวระดับ 100 ล้าน ที่กับทีมชาติฝรั่งเศสเขาทำผลงานสุดยอดจนไปไกลถึงการครองแชมป์โลก 2018 แต่ตัดภาพไปที่ระดับสโมสรในเวลานั้นที่เจ้าตัวอยู่กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นอกจากผลงานในสนามจะไม่เป็นชิ้นเป็นอันแล้ว ก็ยังมีเรื่องพฤติกรรมมาให้ทีม และแฟนบอลปวดหัวกันไม่เว้นวัน ทั้งการปั่นประสาทไปเรื่อย ไม่โฟกัสฟุตบอล หรือเวลาลงสนามก็เล่นยากเกินไปหลายจังหวะ

ซึ่งนั้นมันผิดกับตอนเล่นให้ทีมชาติโดยสิ้นเชิงที่เขามักจะโฟกัสอย่างเต็มที่ จ่ายบอลง่ายๆ ตัดเกมก็ได้ เติมเกมก็ดี แต่เมื่อกลับมาเล่นให้สโมสรก็เหมือนเดิม เพิ่มเติมคือมีอาการบาดเจ็บตามเป็นเงา รวมถึงข่าวเรื่องการย้ายทีมทุกซัมเมอร์ สุดท้ายก็แยกทางกันไปด้วยการหมดสัญญา

 

อเล็กซานเดอร์ โกโลวิน

จอมทัพหมีขาวแจ้งเกิดครั้งแรกกับทีมชาติในศึกยูโร 2016 แม้ในรายการนั้น รัสเซียจะไม่ได้ผ่านเข้ารอบต่อไป แต่ผลงานของ โกโลวินในการคุมแดนกลางก็โดดเด่นไม่แพ้ใคร ในขณะที่ระดับสโมสรเจ้าตัวทำได้ดีกับ ซีเอสเคเอ มอสโก ในลีกบ้านเกิด เขาทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมเรื่อยมาทั้งกับทีมชาติและสโมสร

จนกระทั่งหลังจบฟุตบอลโลก 2018 ทัพหมีขาวไปได้ไกลถึงรอบ 8 ทีม ทำให้โกโลวิน ที่โดดเด่นเหลือเกินถูกทีมดังหลายทีมทาบทามก่อนที่จะเป็น โมนาโก จากลีกเอิงที่ได้ตัวเขาไปร่วมทัพ ซึ่งเป็นการโกอินเตอร์ไปนอกรัสเซียครั้งแรก แต่มันก็ไม่เป็นไปตามที่หวังเมื่อทั้งอาการบาดเจ็บที่ตามเล่นงาน รวมถึงฟอร์มการเล่นที่ไม่ได้ดีเหมือนเดิมก็ทำให้ชื่อของเขาเริ่มจากหายไปในระดับสโมสร แต่กับทีมชาติ โกโลวินยังเป็นตัวหลักเสมอ

 

เปาลินโญ่

กองกลางแซมบ้าแจ้งเกิดกับทางโครินเธียนส์ในลีกบ้านเกิด ก่อนที่ ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์สจะไปคว้าตัวมาในปี 2013 แต่ผลงานไม่ได้เป็นไปตามที่หวังนักในซีซั่นแรกบนเวทีพรีเมียร์ลีก ถึงอย่างนั้นก็ยังถูกเรียกติดทีมชาติบราซิลไปลุยศึกฟุตบอลโลก 2014 ได้ลงสนามแทบทุกนัดแม้จะไม่มีประตูหรือแอสซิสต์แต่ก็ทำได้โดดเด่นในแดนกลางของทีมจนไปไกลถึงการชิงที่สามถึงจะผิดหวังก็ตาม

หลังจากกลับมาจากทีมชาติแฟนบอลไก่เดือยทองก็คาดหวังจะได้เห็นฟอร์มแบบในทีมชาติแต่ก็ไม่เลยเขายิงได้ 2 ประตู 5 แอสซิสต์รวมทุกรายการ ก่อนจะโดนปล่อยไปให้กว่างโจว เอเวอร์แกรนด์ในลีกจีน แม้จะมีโอกาสได้กลับมาค้าแข้งที่ยุโรปกับ บาร์เซโลน่า ช่วงปี 2017-2019 แต่ก็ไม่ได้มีอะไรน่าจดจำเลย ในขณะที่กับทีมชาติเขายังคงได้ไปลุยฟุตบอลโลก 2018 ในฐานะตัวหลักซะด้วย

 

เฟร็ด

อีกหนึ่งกองกลางที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดส่งเข้าประกวด และโดนล้อเลียนว่าเป็นบราซิลเก๊มาตลอด เฟร็ดสร้างชื่อมากับ ชัคตาร์ โดเนสท์ แต่การมาอยู่ที่ปีศาจแดงฟอร์มของเขาไม่เป็นชิ้นเป็นอันเลยไม่ว่าจะตัดเกม จ่ายบอล พาบอลไปข้างหน้า การยิงประตู ทักษะต่างๆ ไม่มีให้เห็นเลยสักนิด ผิดกับตอนที่อยู่ทีมเก่าสิ้นเชิง แต่กับทีมชาติมันต่างออกไป

กับทัพแซมบ้า เฟร็ดถือเป็นตัวหลักที่มีทุกอย่างที่เขาเคยมี ทุกอย่างที่เคยเป็นเครื่องหมายการค้าของเขา แม้จะไม่ได้ติดทีมชาติมายาวนานเหมือนคนอื่นๆในลิสต์นี้ แต่ในโคปา อเมริกา 2021 ที่ผ่านมา กองกลางวัย 29 ปีถือเป็นตัวหลักที่พาทีมไปไกลถึงนัดชิง ถึงจะพลาดท่าพลาดให้กับ อาร์เจนติน่าไปก็ตาม ในขณะที่กับสโมสร เขาเรียกฟอร์มเก่งกลับมาได้บ้าง แต่ก็ยังรักษาความสม่ำเสมอไว้ไม่ได้

 

คริสเตียน พูลิซิช

กับเชลซีเขาอาจเป็นดีลที่ค่อนข้างล้มเหลวด้วยอาการบาดเจ็บและฟอร์มที่ไม่สม่ำเสมอ รวมถึงช่วงหลังที่เริ่มหลุดไปเป็นสำรอง แต่สำหรับทีมชาติ เขาถูกยกให้เป็นกัปตันอเมริกา เลยทีเดียวบทบาทความสำคัญของแนวรุกวัย 24 ปีต่อทีมชาตินั้นแตกต่างกับระดับสโมสรโดยสิ้นเชิง 

แม้ขุนพลแดนลุงแซมจะไม่เคยได้มาลุยฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายกับพูลิซิชเลย แต่ในบอลโลก 2022 หนนี้ต้องบอกว่าฟอร์มเขาเข้าฝักสุดๆ ทั้งยิงทั้งจ่ายช่วยทีมมาลุยถึงรอบสุดท้าย แถมยังพาทะลุไปรอบ 16 ทีมได้อีกด้วย ซึ่งสวนทางกับสิงห์บลูอย่างชัดเจนที่ตอนนี้ เจ้าตัวแทบจะกลายเป็นส่วนเกินไปแล้วด้วยซ้ำ

 

เมมฟิส เดปาย

แข้งชาวดัตช์เริ่มเป็นที่รู้จักเป็นวงการในฟุตบอลโลก 2014 แม้ในทีมชุดนั้นจะมีสตาร์ดังอยู่เพียบ แต่ก็สามารถสอดแทรกขึ้นมาโชว์ผลงานได้ ก่อนที่จะอยู่กับพีเอสวีไปอีกปีและได้ย้ายไปอยู่กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แต่เส้นทางก็ไม่ได้เป็นอย่างที่คาดหวัง เดปายถือเป็นดีลที่ล้มเหลวสำหรับปีศาจแดง ก่อนจะได้ย้ายไปชุบตัวที่ โอลิมปิค ลียง ซึ่งก็กลับมาเป็นผู้เป็นคนอีกครั้ง

ส่วนในทีมชาติเจ้าตัวยังถูกเรียกติดทีมเรื่อยมา น่าเสียดายที่หลังจากนั้นทัพอัศวินสีส้มไม่ได้ทะลุมาเล่นในรอบสุดท้ายเลยนับตั้งแต่บอลโลก 2014 กว่าจะได้มาลุยอีกทีก็ยูโร 2020 เลยแต่พวกเขาก็จอดป้ายแค่รอบ 16 ทีมเท่านั้นตัดภาพไปที่สโมสรปัจจุบัน เดปายอยู่กับบาร์เซโลน่า แต่ก็แทบจะเป็นส่วนเกินของทีมไปแล้ว

 

แกเร็ธ เบล

เวลส์ กอล์ฟ มาดริด เป็นคำนิยามอย่างดีสำหรับดาวเตะพญาวานรรายนี้ ไม่ว่าหนทางกับต้นสังกัดอย่าง เรอัล มาดริดจะเป็นอย่างไร เมื่อถึงคราวต้องเล่นให้ทีมชาติ เบลมักจะงัดพลังแฝงออกมาได้เสมอ ในขนาดที่ว่าระดับสโมสรถึงจะมีปัญหาโดนดร็อปเป็นสำรองชนิดที่ว่าในฤดูกาล 2021/22 เจ้าตัวได้ลงเล่นให้กับทีมชาติที่นานๆทีจะเตะมากกว่าที่ลงเล่นให้กับราชันชุดขาวเสียอีก

นอกจากนี้กับชาติบ้านเกิด แข้งวัย 33 ปียังเป็นคนที่พาทีมกลับไปลุยฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1958 แม้จะจบลงด้วยการตกรอบแบ่งกลุ่มก็ตาม แต่ก็ถือว่าเป็นตัวแบกสำหรับทีมชาติมาตลอดหลายปี ทุกๆทัวร์นาเม้นต์

สูงวัยแล้วไง : 10 แข้งเอ้าท์ฟิลด์วัยเก๋าในศึกฟุตบอลโลก