ของดีกาฬทวีป : 10 แข้งแอฟริกาค่าตัวแพงสุดตลอดกาล

ของดีกาฬทวีป : 10 แข้งแอฟริกาค่าตัวแพงสุดตลอดกาล

แอฟริกาเป็นหนึ่งในทวีปที่ผลิตแข้งฝีเท้าดีออกมามากมาย และส่งออกนักเตะไปค้าแข้งในลีกยุโรปมากที่สุด ไม่แพ้ทวีปอเมริกาใต้เลย

มากไปกว่านั้น แข้งจากกาฬทวีป ยังทำผลงานได้โดดเด่นจนกลายเป็นที่พูดถึงของแฟนบอล และสร้างผลกระทบต่อวงการฟุตบอลในยุโรปเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็น จอร์จ เวอาห์, เจย์ เจย์ โอโคชา,  ซามูเอล เอโต้ หรือ ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา ซึ่งทั้งหมดล้วนแต่ประสบความสำเร็จในเส้นทางของตัวเอง

และด้วยค่าเงินที่สูงขึ้นในปัจจุบัน ทำให้ค่าตัวของนักเตะจากแอฟริกาพุ่งสูงขึ้นกว่าเมื่อก่อนเป็นเท่าตัว อีกทั้งฟอร์มการเล่นของพวกเขาก็ยอดเยี่ยมน่าสนใจไม่แพ้รุ่นพี่ ทำให้ทีมต่างๆต้องยอมทุ่มเงินมากกว่าเดิมเพื่อคว้านักเตะจากกาฬทวีปที่พวกเขาหมายปองมาร่วมทีมให้ได้

และนี่คือ 10 แข้งฝีเท้าดีที่มาจากแอฟริกาที่มีค่าตัวมากที่สุดตลอดกาลตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

 

10.ซาดิโอ มาเน่ | 37 ล้านปอนด์ 

Mane decides to leave Liverpool amid Bayern transfer links | Goal.com  English Saudi Arabia

ซาดิโอ มาเน่ ถือเป็นนักเตะคนแรกๆที่ เจอร์เก้น คล็อปป์ คว้ามาร่วมทีม หลังได้คุม ลิเวอร์พูล เต็มฤดูกาลครั้งแรกในปี 2016 ด้วยค่าตัว 37 ล้านปอนด์ จาก เซาแธมป์ตัน 

หลังจากนั้นเป็นต้นมา ดาวเตะทีมชาติเซเนกัล ก็ค่อยๆพัฒนาฝีเท้าจนก้าวขึ้นมาเป็นแนวรุกที่หงส์แดงขาดไม่ได้ในปีต่อๆมา พร้อมประสานงานกับ โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่ และ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ จนถูกให้เป็น 1 ใน 3 ประสานแดนหน้าที่อันตรายที่สุดในยุโรป

มาเน่ ประสบความสำเร็จอย่างมากในถิ่นแอนฟิลด์ ทั้งคว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกได้ ในปี 2019, แชมป์ ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ, แชมป์สโมสรโลก, แชมป์พรีเมียร์ลีก, ลีกคัพ และ เอฟเอ คัพ อย่างละสมัย ก่อนย้ายไปหาความท้าทายใหม่กับ บาเยิร์น มิวนิค ในฤดูกาล 2022-23

 

9.โมฮาเหม็ด ซาลาห์ | 43.9 ล้านปอนด์

Mohamed Salah: 'I'm staying at Liverpool next season'

ในปี 2017 ลิเวอร์พูล เดินหน้าคว้า โมฮาเหม็ด ซาลาห์ จาก โรม่า ด้วยค่าตัว 36.9 ล้านปอนด์ แต่เมื่อบวกกับเงื่อนไขโบนัสต่างๆจะอยู่ที่ราวๆ 43.9 ล้านปอนด์เลย

แม้ในตอนนั้น เดอะ ค็อป จะกังวลกับปีกชาวอียิปต์ว่าจะเป็นดีลที่ล้มเหลว หลังเคยย้ายมาดับกับ เชลซี เมื่อปี 2014-2016 แต่เขาก็พิสูจน์ว่าตนเองมีดีกว่านั้นด้วยคว้าดาวซัลโว ในฤดูกาล 2017-18 พร้อมคว้ารางวัลแข้งยอดเยี่ยมจาก PFA และ สมาคมนักข่าวในปีเดียวกันด้วย

แม้ปีต่อๆมา ฟอร์มการเล่นของ ซาลาห์ จะดร็อปลงมาบ้าง แต่เขาก็ยังเป็นขุนพลสำคัญที่ช่วยให้ทีมคว้าถ้วยแชมเปี้ยนส์ลีก, แชมป์ ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ, แชมป์สโมสรโลก, แชมป์พรีเมียร์ลีก, ลีกคัพ และ เอฟเอ คัพ หลังจากนั้น

 

8.เซบาสเตียน อัลแลร์ | 45 ล้านปอนด์

Ajax have left Sebastien Haller off their Europa League squad by accident  as deadline passes - Eurosport

หลังโชว์ฟอร์มได้โดดเด่นอย่างมากกับ ไอน์ทรัค แฟรงค์เฟิร์ต ด้วย 15 ประตู กับ 9 แอสซิสต์ทำให้ เวสต์แฮม ควักเงินกว่า 45 ล้านปอนด์ เพื่อดึง เซบาสเตียน อัลแลร์ ไปร่วมทีมในซัมเมอร์ที่ผ่านมา 

น่าเสียดายที่ กองหน้าร่างยักษ์ ไม่สามารถโชว์ฟอร์มได้เหมือนตอนอยู่เยอรมัน เมื่อเขายิงไปเพียง 7 ประตู กับ 2 แอสซิสต์ จาก 32 นัดในพรีเมียร์ลีก แต่ก็ยังพอช่วยให้ ขุนค้อน รอดตกชั้นได้สำเร็จ ก่อนไปคืนฟอร์มเก่งหลังย้ายไป อาแจ็กซ์ ในช่วงปีครึ่งที่ผ่านมา เมื่อซัดไป 47 ประตูจาก 66 นัด จนได้ย้ายไปเล่นกับ ดอร์ทมุนด์ ในฤดูกาลล่าสุด ทว่าโชคร้ายเมื่อตรวจมะเร็งอัณฑะต้องรับการผ่าตัด โดยที่ยังไม่ชัวร์ว่าจะหายกลับมาช่วยทีมได้เมื่อไหร่

แม้จะเคยติดทีมชาติฝรั่งเศสชุดยู-21 แต่แข้งวัย 28 ปี ก็สามารถเลือกเล่นให้กับทีมชาติไอวอรี่ โคสต์ เช่นกัน เนื่องจากมีแม่เป็นชาวไอวอรี่ โคสต์ นั่นเอง

 

7.อารอน วาน บิสซาก้า | 49.5 ล้านปอนด์ 

CRYSTAL PALACE APPROACH MAN UNITED OVER WAN-BISSAKA DEAL - DePredict.com

วาน บิสซาก้า มีกรณีคล้ายคลึงกับของ อัลแลร์ นั่นก็คือมีเชื้อสายชาวคองโกจากผู้เป็นพ่อ และยังไม่เคยติดทีมชาติอังกฤษชุดใหญ่ ทำให้เขายังถือเป็นแข้งชาวแอฟริกาอยู่นั่นเอง

แบ็คขวาฉายา ‘ไอ้แมงมุม’ ได้ย้ายจาก คริสตัล พาเลซ ไปร่วมทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ด้วยค่าตัว 49.5 ล้านปอนด์ เมื่อซัมเมอร์ที่ผ่านมา และทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมกับปีแรกในโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด 

อย่างไรก็ตาม หลังจากผ่านปีแรกไป ผลงานของ วาน บิสซาก้า ก็ค่อยๆตกลง โดยเฉพาะเกมรุกที่ไม่พัฒนาขึ้นเลย ก่อนเสียตำแหน่งแบ็คขวาแบบถาวรให้กับ ดีโอโก้ ดาโลต์ ในช่วงปลายฤดูกาลที่แล้วในยุคของ ราล์ฟ รังนิค และ ฤดูกาลปัจจุบันที่มี เอริค เทน ฮาก คุมทีม

 

6.นาบี เกอิต้า | 52.75 ล้านปอนด์ 

Selling Naby is not possible' - Klopp insists Keita will not leave Liverpool  before transfer window closes | Goal.com English Oman

เมื่ออกหัก ในนัดชิง ยูฟ่า แชมเปี้ยส์ลีกปี 2018  ลิเวอร์พูล ก็ไม่รอช้าเสริมทัพอย่างรวดเร็วด้วยการปิดดีลคว้า นาบี เกอิต้า กองกลางตัวเก่งจาก แอร์เบ ไลป์ซิก ด้วยค่าตัว 52.75 ล้านปอนด์ 

ดาวเตะทีมชาติกินี คือหนึ่งในคนสำคัญที่ทำให้ ไลป์ซิก ขึ้นมาโลดแล่นในลีกสูงสุดของเยอรมัน แต่ในพรีเมียร์ลีก เขาต้องเวลาปรับตัวพอสมควร ก่อนที่อาการบาดเจ็บจะทำให้เขาโชว์ฟอร์มไม่ออกในปีแรก ณ แอนฟิลด์

แม้มีหลายครั้งที่เขาโชว์ฟอร์มโดดเด่น แต่ เกอิต้า มีปัญหาด้านความฟิตให้เห็นในหลายๆเกม จนได้ลงสนามไม่มากพอ และหลุดเป็นสำรองอยู่หลายช่วง

 

5.ปิแอร์ เอเมอริค โอบาเมยอง | 56 ล้านปอนด์ 

Aubameyang Arsenal struggles serve as Chelsea warning

อาร์เซน่อล ลงทุนใช้เงินกว่า 56 ล้านปอนด์ เพื่อดึง ปิแอร์ เอเมอริค โอบาเมยอง ดาวยิงจาก โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ มาล่าตาข่ายในลอนดอนเหนือ เมื่อตลาดนักเตะหน้าหนาวปี 2018 

หอกทีมชาติกาบอง ใช้เวลาไม่นานก็สามารถปรับตัวเข้ากับลีกผู้ดีได้อย่างไม่มีปัญหา และทำประตูได้สม่ำเสมอ ไม่ว่าปืนใหญ่ในยุค อาร์เซน เวนเกอร์, อูไน เอเมอรี่ หรือ มิเกล อาร์เตต้า ในปัจจุบัน 

แม้คว้าแชมป์เอฟเอ คัพ กับ อาร์เซน่อล ได้ในปี 2020 แต่ด้วยปัญหาด้านวินัยทำให้ อาร์เตต้า เขี่ย โอบาเมยอง พ้นทีมจนย้ายไป บาร์เซโลน่า แบบไร้ค่าตัวเมื่อช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา ก่อนกลับมาลอนดอนอีกครั้ง แต่ในฐานะกองหน้าคนใหม่ของ เชลซี ในฤดูกาลปัจจุบัน

 

4.ริยาด มาห์เรซ | 60 ล้านปอนด์

มาห์เรซ: 'ผมต้องการแขวนสตั๊ดที่ซิตี้'

หลังแสดงความต้องการย้ายทีมอยู่นาน ในที่สุด ริยาด มาห์เรซ ก็ได้ย้ายสมใจ หลัง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ นำเงินมาสู่ขอเขาจาก เลสเตอร์ ซิตี้ ไปร่วมทีมด้วยค่าตัว 60 ล้านปอนด์ในปี 2018

ดาวเตะชาวแอลจีเรีย อาจคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกมาแล้วกับ เดอะ ฟ็อกซ์ ในปี 2016 แต่โอกาสขึ้นเป็นตัวหลักของเขา ในถิ่น เอติฮัด สเตเดี้ยม กลับไม่ใช่เรื่องง่ายเลย และกลายเป็นตัวเลือกสำรองของ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ในหลายๆครั้ง

ทว่าฤดูกาลต่อๆมา ปีกจอมพริ้ววัย 28 ปี ทำผลงานได้สม่ำเสมอมากขึ้น จนได้โอกาสเป็นตัวจริงมากกว่าเมื่อก่อน แต่ก็ไม่ได้หมายความเขาหรือนักเตะในซิตี้ จะการันตีตัวจริงทุกๆนัดในยุคของ เป๊ป หรอกนะ

 

3.เซดริก บาคัมบู | 65 ล้านปอนด์

Bakambu: Marseille sign ex-Villarreal star on free transfer | Goal.com US

จู่ๆในปี 2018 ก็เกิดดีลใหญ่ขึ้นในลาลีก้า เมื่อ ปักกิ่ง กั๋วอัน สโมสรดังจากไชนีส ซุปเปอร์ ลีก คว้า เซดริก บาคัมบู ที่ยิงไป 15 ประตู ให้ บียาร์เรอัล ในฤดูกาล 2017-18 ไปร่วมทีมแบบฟ้าฝ่า พร้อมค่าตัวมากกว่า 65 ล้านปอนด์

กองหน้าวัย 31 ปี ฉายฟอร์มเด่นทันทีหลังย้ายไปแดนมังกร ด้วยการยิงไป 8 ตุง ใน 8 นัดแรก พร้อมกับช่วยให้ทีมคว้าแชมป์ไชนีส เอฟเอ คัพ ในปี 2018 ด้วย แต่เล่นได้ราวๆ 2 ปีเศษๆก็ย้ายกลับมายุโรปอีกครั้งกับ มาร์กเซย ในช่วงครึ่งหลังซีซั่นที่แล้ว ก่อนย้ายมาเล่นกับ โอลิมเปียกอส ในฤดูกาลล่าสุด

 

2.นิโคลาส์ เปเป้ | 72 ล้านปอนด์

Nicolas Pepe: How Arsenal's record signing turned into a £72m nightmare |  Goal.com India

ต่อมาในปี 2019 ก็มีการทำลายสถิติอีกครั้ง เมื่อ นิโคลาส์ เปเป้ กลายเป็นแข้งชาวจากทวีปแอฟริกาที่มีค่าตัวสูงสุดตลอดกาล หลังย้ายจาก ลีลล์ ไปร่วมทีม อาร์เซน่อล ด้วยราคา 72 ล้านปอนด์

ปีกจอมเลื้อยทีมชาติไอวอรี่ โคสต์ เซ็นสัญญากับ ‘ปืนใหญ่’ 5 ปี หลังยิงไป 22 ตุง กับ 11 แอสซิสต์ ในลีกเอิง ฤดูกาล 2018-19

ทว่าด้วยความโหดหินของฟุตบอลอังกฤษ ทำให้แข้งวัย 27 ปี ไม่สามารถโชว์ฟอร์มได้แพรวพราวเหมือนในแดนน้ำหอมได้เท่าไหร่ ซึ่งในฤดูกาลล่าสุดเจ้าตัวก็ย้ายกลับไปเรียกความมั่นใจกับ นีซ ด้วยสัญญายืมตัว 1 ซีซั่น

 

1.วิคเตอร์ โอซิมเฮน | 73 ล้านปอนด์

Victor Osimhen agent forced to speak out amid shock Manchester United links

เมื่อปลายเดือนกรกฏาคมที่ผ่านมา นาโปลี สโมสรดังแห่งศึก กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี คว้าตัว วิคเตอร์ โอซิมเฮน กองหน้า ลีลล์ ด้วยค่าตัวราวๆ 64 ล้านปอนด์

หัวหอกชาวไนจีเรีย วัย 21 ปี เซ็นสัญญาค้าแข้งในถิ่น ซาน เปาโล เป็นเวลา 5 ปี หรือจนถึงปี 2025 ขณะที่ค่าตัวรวมโบนัสต่างๆ ตกอยู่ที่ 73 ล้านปอนด์ ซึ่งถือเป็นสถิติค่าตัวสูงสุดในประวัติศาสตร์ของอัซซูร่า

มากไปกว่านั้นดีลนี้ทำให้ โอซิมเฮน กลายเป็นนักเตะจากทวีปแอฟริกาที่มีค่าตัวสูงที่สุดตลอดกาล เหนือ นิโคลาส์ เปเป้ ที่ทำไว้เมื่อซัมเมอร์ปี 2019 เรียบร้อย แถมผลงานกับ นาโปลี ก็ดีวันดีคืน หลังกดไปแล้ว 30 ประตู จาก 68 นัดในทุกรายการ

 

บทความที่เกี่ยวข้อง

สารพัดประโยชน์ : 8 สังเวียนแข้งถูกใช้จัดคอนเสิร์ตระดับโลก
สารพัดประโยชน์ : 8 สังเวียนแข้งถูกใช้จัดคอนเสิร์ตระดับโลก