พี่เคยผ่านมาก่อน : ย้อนรอย 5 ตำนานนักเตะไทยย้ายค้าแข้งลีกมาเลย์

 มาเลเซีย ซุปเปอร์ลีก ถือเป็นอีกหนึ่งลีกที่มีความเป็นอาชีพและพัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอดหลายปีที่ผ่านมา ตีคู่มากับลีกของบ้านเราเลยก็ว่าได้

ในแต่ละปีมีผู้เล่นจากหลากหลายชาติย้ายมาค้าแข้งที่นี่ โดยเฉพาะนักเตะจากบราซิล และ แอฟริกา และนับตั้งแต่มีการนำโควตาอาเซียน มาใช้งาน นักเตะไทย ก็เริ่มเป็นที่นิยมของสโมสรมาเลย์ เช่นกัน

สรรวัชญ์ เดชมิตร คือนักเตะดีกรีทีมชาติไทย คนล่าสุดที่ย้ายไปเล่นใน มาเลเซีย ซุปเปอร์ลีก กับ เคดาห์ ซึ่งเป็นทีมที่คนไทย คุ้นชื่อกันเป็นอย่างดี แถมสนามแข่งของสโมสรอย่าง สเตเดี้ยม ดารุล อมัด อยู่ห่างจากชายแดนด่านสะเดา จังหวัดสงขลา แค่เพียง 50 กิโลเมตร เท่านั้น

อย่างไรก็ตาม หากย้อนกลับไปในอดีต เคยมีนักเตะระดับท็อปของเมืองไทย ย้ายมาเล่นที่ มาเลเซีย ไม่น้อยเช่นกัน และฝากผลงานอันน่าประทับใจไว้มากมาย ซึ่งวันนี้ UFAARENA จะขอพาย้อนกลับไปดูว่าพวกเขาเหล่านั้นเป็นใครกันบ้าง

 

อรรถพล บุษปาคม | ปะหัง

ลงเล่น 100 นัด ยิง 22 ประตู

นับเป็นอีกหนึ่งนักเตะไทย ระดับตำนานที่ประสบความสำเร็จมากมาย ทั้งกับสโมสรและทีมชาติ โดยเฉพาะการเล่นให้กับ การท่าเรือ ช่วงยุค 90 นอกจากนั้นเขายังเคยสร้างความสำเร็จกับการลงเล่นฟุตบอลลีกอาชีพบนแผ่นดินมาเลเซีย มาแล้วอีกด้วย

ภายหลังเป็นคีย์แมนคนสำคัญพา “สิงห์เจ้าท่า” คว้าถ้วยพระราชทานประเภท ก. 2 สมัย เมื่อปี 1985 และ 1990 อรรถพล บุษปาคม ถูกดึงตัวมาอยู่กับสโมสรระดับแถวหน้าแดนเสือเหลือง ณ เวลานั้น อย่าง ปะหัง ในศึก ลีกา เปอร์ดาน่า (มาเลเซีย ซุปเปอร์ลีก)  ระหว่างปี 1991-1994 แต่กลับไม่ประสบความสำเร็จอย่างที่หวังไว้

ก่อนที่ปี 1994 กองกลางทีมชาติไทย ชุดแชมป์ ซีเกมส์ ครั้งที่ 17 จะย้ายการ ท่าเรือ ไปเล่นให้กับ ปะหัง อีกครั้ง ซึ่งคราวนี้เขาพาทีมทำผลงานยอดเยี่ยม พร้อมกับคว้าแชมป์ เอ็ม ลีก ได้สำเร็จ ซึ่งนั่นทำให้ อรรถพล บุษปาคม กลายเป็นนักเตะไทย เพียงไม่กี่คนที่ประสบความสำเร็จกับการค้าแข้งที่มาเลเซีย และลงเล่นทะลุ 100 นัด จนถึงทุกวันนี้

 

โชคทวี พรหมรัตน์ | ยะโฮร์ เอฟซี

ลงเล่น 26 นัด ยิงประตูไม่ได้

อีกหนึ่งนักเตะที่หลายคนคงยังไม่เคยรู้ว่าเขาผ่านการค้าแข้งที่ มาเลเซีย มาแล้วเช่นกัน นั่นคือ โชคทวี พรหมรัตน์ ซึ่งเคยเล่นกับ ยะโฮร์ ช่วงบั้นปลายเส้นทางการเล่นฟุตบอลอาชีพของตัวเอง

นับเป็นนักเตะทีมชาติไทย ที่ผ่านการลงเล่นในลีกย่านอาเซียน มาแบบโชกโชน เริ่มต้นด้วยการเล่นที่ เอส ลีก สิงคโปร์ ช่วงต้นยุค 2000 กับ กมบัก ยูไนเต็ด, ตันจง ปาร์คเกอร์ ยูไนเต็ด และ แทมปิเนส โรเวอร์ส ก่อนโยกมาเล่น วี ลีก เวียดนาม กับ ฮอง อันห์ ยาลาย เมื่อปี 2005 หลังจากอีก 2 ปี โชคทวี พรหมรัตน์ เริ่มต้นความท้าทายใหม่ด้วยการมาค้าแข้งที่ มาเลเซีย กับ ยะโฮร์ เอฟซี

อดีตกองหลังทัพ “ช้างศึก” ชุดดรีมทีม ลงเล่นให้กับ ยะโฮร์ เอฟซี ในซีซั่น 2007 พร้อมกับทำผลงานยอดเยี่ยมพาสโมสรจบฤดูกาลด้วยอันดับ 3 ของลีก และเสียแค่เพียง 27 ประตู เท่านั้น จาก 24 เกม ที่ลงเล่น

อย่างไรก็ตาม โชคทวี อยู่กับ ยะโฮร์ เอฟซี แค่เพียงซีซั่นเดียวเท่านั้น ก่อนที่ซีฤดูกาลถัดมาเขาย้ายกลับมาเล่นในเมืองไทย กับ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค พร้อมกับพาทีมคว้าแชมป์ ไทยลีก 2008 และตัดสินใจแขวนสตั๊ดสองปีหลังจากนั้น

 

วรวุทธ ศรีมะฆะ | กลันตัน

ลงเล่น 29 นัด ยิง 7 ประตู

สุดยอดกองหน้าระดับไอคอนทีมชาติไทย อย่าง วรวุทธ ศรีมะฆะ คืออีกคนที่เคยไปกอบโกยเงินริงกิตกับการค้าแข้งฟุตบอลอาชีพที่ มาเลเซีย มาแล้ว ในช่วงที่วงการฟุตบอลบนคาบสมุทรมลายู กำลังเฟื้องฟูสุดๆ ช่วงต้นยุค 2000

ภายหลังประสบความสำเร็จกับ บีอีซี เทโรศาสน ด้วยการคว้ารองแชมป์ เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก ซีซั่น 2002 ตัดสินใจหาความท้าทายครั้งใหม่ด้วยการย้ายไปโลดเล่นยังต่างแดน ซึ่งทีมแรกคือ ท็อปแลนด์ บินห์ดิน ใน วี ลีก เวียดนาม กระทั่งปี 2005 วรวุทธ ได้เซ็นสัญญามาเล่นที่ มาเลเซีย พรีเมียร์ลีก หรือลีกดิวิชั่น 2 แดนเสือเหลืองกับ กลันตัน

โดยผลงานของ “โค้ชโย่ง” สมัยเล่นอยู่กับ กลันตัน เมื่อฤดูกาล 2005/2006 ลงสนาม 29 นัด ยิง 7 ประตู แม้ผลงานส่วนตัวถือว่าน่าพอใจ แต่นั่นก็ไม่ดีพอที่จะทำให้ต้นสังกัดเลื่อนชั้นชึ้นสู่ลีกสูงสุดได้สำเร็จ ก่อนที่เขาจะแยกทางกับสโมสร ปิดฉากช่วงเวลาการลงเล่นที่ มาเลเซีย แค่เพียงปีเดียวเท่านั้น

 

เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง | ปะลิศ

ลงเล่น 22 นัด ยิง 21 ประตู

หลายคนคงคุ้นเคยและจดจำภาพของอดีตตำนานดาวยิงทีมชาติไทย อย่าง เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง กับการไปสร้างความยิ่งใหญ่กับ ฮอง อันห์ ยาลาย ในศึก วี ลีก เวียดนาม แต่อาจลืมไปว่า “ซิโก้” ก็เคยไปเล่นลีกอาชีพที่มาเลย์ มาแล้วเช่นกัน

ย้อนกลับไปเมื่อปี 1998 หลังกอบโกยความสำเร็จกับสามสโมสรระดับท็อปของไทย ณ เวลานั้น อย่าง ธนาคารกรุงไทย, ราชประชา และ ตำรวจ อดีตศูนย์หน้าทีมชาติไทย ชุดดรียมทีมถูกดึงไปเล่นต่างแดนครั้งแรกกับ ปะลิศ สโมสรระดับท็อปของลีกมาเลเซีย พร้อมโชว์ฟอร์มระเบิดตาข่าย ยิง 21 ประตู จากการลงสนาม 22 นัด

แม้จะลงเล่นที่ มาเลเซีย แค่ปีเดียวเท่านั้น ทว่าจากฟอร์มอันยอดเยี่ยมกับ ปะลิศ ทำให้ปี 1999 เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ได้รับโอกาสครั้งสำคัญ นั่นคือการได้ไปร่วมซ้อมกับ มิดเดิ้ลสโบรห์ ทีมในระดับ พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ก่อนเซ็นสัญญาเป็นนักเตะอาชีพกับ ฮัดเดอร์ฟิลด์ ทาวน์ หลังจากนั้นไม่นาน

 

ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน | ปะหัง

ลงเล่น 61 นัด ยิง 70 ประตู

ศูนย์หน้าที่ดีที่สุดตลอดการของวงกาลฟุตบอลไทย ประสบความสำเร็จมากมายทั้งระดับสโมสรและทีมชาติ และแน่นอนว่าเขาเป็นอีกหนึ่งตำนานแข้ง “ช้างศึก” ที่เคยไปโชว์ฝีเท้าในลีกเสือเหลืองมาแล้วเช่นกัน

ภายหลังพา ลัคกี้ โกลด์ สตาร์ คว้าแชมป์ เค ลีก เกาหลีใต้ พ่วงตำแหน่งดาวซัลโวและนักเตะยอดเยี่ยม เมื่อฤดูกาล 1985 ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน ตัดสินใจหาความท้าทายบทใหม่ให้กับตัวเอง ด้วยการย้ายมาเล่นกับ ปะหัง ในลีกมาเลเซีย เรียกว่าเป็นดีลที่เรียกเสียงฮือฮาจากแฟนบอลไม่น้อยในยุคนั้น

แม้บทสรุปตลอด 3 ปี กับ ปะหัง เขาไม่สามารถพาทีมหาคว้าแชมป์ได้สำเร็จ แต่ผลงานส่วนตัวถือว่ายอดเยี่ยมสุดๆ ด้วยการยิงไปถึง 70 ประตู จากการลงเล่น 61 นัด ซึ่งนั้นทำให้เขากลายเป็นนักเตะไทย ที่ยิงมากสุดในลีกมาเลย์ มาจนถึงทุกวันนี้ และเป็นยากมากที่จะหาใครมาทำลายสถิติดังกล่าวได้ในอนาคต